นักพัฒนาเหรียญอันดับสองของโลก Ethereum ได้พูดคุยเพื่อหารือกันเกี่ยวกับตัวอัพเดตสำคัญของเครือข่าย Ether ในการประชุม Ethereum Core Devs Meeting ครั้งที่ 40 ที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้
จุดสำคัญของการประชุมดังกล่าวนั้นคือการเลื่อนวันเปิดตัวอัพเกรดสำหรับเครือข่ายบล็อกเชนของ Ethereum อย่าง Casper และ Sharding โดยก่อนหน้านี้สำหรับตัวอัพเกรด Casper นั้นเคยถูกวางแผนให้คลอดออกมาในรูปแบบ smart contract แยกออกมาจาก sharding ทว่าข้อเสนอแนะล่าสุดนั้นเผยว่าตัวอัพเดต Casper จะถูกเปิดตัวบน shard หรือ sidechain ที่แยกออกมาจาก blockchain หลักแทน
Sharding คือระบบที่ถูกคิดค้นโดยผู้ก่อตั้ง Ethereum นาย Vitalik Buterin เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา ระบบดังกล่าวจะมาช่วยแก้ปัญหาการ scaling หรือขยายขนาดการรองรับจำนวนธุรกรรมเหรียญ ETH ต่อวินาทีด้วยเทคนิคการสร้างสิ่งที่เรียกว่า ‘shard’ หรือ node ที่แยกออกไป ทำให้การประมวลผลธุรกรรมนั้นไม่ต้องไปทำการตวรสอบให้หมดทั้ง blockchain แต่เป็นแค่ shard บางตัวที่สำคัญและเกี่ยวข้องเท่านั้น
ในขณะเดียวกัน Casper FFG นั้นถูกเปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคมเมื่อปีที่แล้ว โดยรายละเอียดนั้นจะเป็นการเปลี่ยนระบบอัลกอริทึ่มจาก proof of work ไปเป็น proof of stake ที่จะทำให้เหรียญ ETH ไม่สามารถถูกขุดได้ในท้ายสุด แต่จะเปลี่ยนวิธียืนยันธุรกรรมเป็นการ staking แทน นาย Vitalik เผยว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมีขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหา “เศรษฐกิจของระบบผ่านผู้ตรวจสอบ และเปลี่ยนแปลงระบบแรงจูงใจ”
ดูวีดีโออธิบายเกี่ยวกับ Casper และ Proof of stake ได้ที่นี่
เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมานั้น Ethereum Improvement Proposal (EIP) #1011: Hybrid Casper FFG ถูกเปิดตัวขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาการขุด โดยแก้ไขระบบ consensus แบบผสม โดยอ้างอิงจากข้อเสนอล่าสุดนั้น นักพัฒนาเครือข่าย ETH อาจจะทำการผสมอัลกอริทึ่ม Proof of work เข้ากับ Proof of stake ในขั้นต้น และจะค่อย ๆ เปลี่ยนให้เป็น proof of stake แบบเต็มตัในท้ายสุด โดยอ้างอิงจาก EIP นั้น ระบบการอัพเกรดดังกล่าวจะลดขนาดรางวัลต่อบล็อกลงจาก 3 ETH ให้เหลือแค่ 0.6 ETH
นาย Vitalik เผยในการประชุมล่าสุดว่าการเปลี่ยนแปลงการเปิดตัว sharding และ Casper นั้นจะช่วย “เพิ่มขนาด” chain ให้มีศัพยภาพแบบ “สูงสุดตามทฤษฎี” และยังเผยว่าการเปลี่ยนแปลงการอัพเกรดนั้นจะช่วยลดจำนวนฝากเหรียญลงจาก 1,500 ETH ให้เหลือแค่ 32 ETH ซึ่งทำให้การเข้าร่วมยืนยันธุรกรรมหรือการ staking นั้นสามารถนำไปใช้งานได้จริง นอกจากนี้เขายังเคลมว่าในโมเดลใหม่นั้นจะสามารถช่วยให้นักพัฒนาสามารถเปิดใช้งานตัวอัพเกรด Casper ได้โดยที่ไม่กระทบเครือข่ายของ Ethereum แม้แต่น้อย
“ตัวประกอบของ Casper นั้นจะถูกแยกออกมาจากเชนหลัก ซึ่งนั่นหมายความว่ามันสามารถถูกพัฒนาได้อย่างไร้ความกังวล มันยังสามารถถูกพัฒนาขึ้นมาในรูปแบบเชนที่แยกออกมาได้ และมีกฎเป็นของตัวมันเองอีกด้วย”
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น