โลกแห่งคริปโต เป็นโลกที่ไม่มีอะไรจะมาคาดเดาได้ เพราะว่าอยู่ดี ๆ ราคาของ Bitcoin ก็อาจจะขึ้นหรือลงโดยไม่มีสาเหตุ และก็เป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องเตรียมตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะคริปโตเป็นตลาดเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ใครเร็วก็สามารถรอดตัวไป ใครช้าก็อาจติดดอย ไม่ก็ตกรถไฟกันไปตาม ๆ กัน
เราไม่มีทางทราบได้หรอกว่าราคาตอนไหนจะขึ้นหรือลง แต่ว่าถ้าเราเจอเหตุการณ์ประมาณนี้ สามารถเตรียมรับมือกันก่อนได้เลย
ข่าว Bitcoin ETF
เป็นที่ทราบกันดีออยู่แล้วว่า ในช่วงหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา มีการยื่นขออนุมัติเรื่อง ETF Bitcoin อยู่เสมอ ถ้าดูตามข่าวเกี่ยวกับ Bitcoin ETF ในวันต่าง ๆ นั้นก็จะเห็นได้ว่าราคา Bitcoin จะร่วงตามทันที
อย่างวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมามีเหตุการณ์ที่ทาง SEC ไม่อนุมัติคำขอ Bitcoin ETF 9 คำขอ ก็ทำให้ราคา Bitcoin ร่วงลงมาประมาณ 400 ดอลลาร์จาก 6,700 ดอลลาร์ เป็น 6,400 ดอลลาร์
หรือวันที่ 8 สิงหาคมก็มีรายงานว่า ก.ล.ต. สหรัฐฯ เลื่อนพิจารณา Bitcoin ETF ของ VanEck และ SolidX ไปยังสิ้นเดือนกันยายน ก็ทำให้ราคา Bitcoin ร่วงจาก 6,972 ดอลลาร์ เป็น 6,640 ดอลลาร์
เว็บเทรดโดนแฮ็ก
เป็นเรื่องปกติแล้วก็ว่าได้ ถ้าวันดีคืนดีเว็บเทรดแห่งใดโดนแฮ็ก จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ภายในวันนั้นหรือคืนนั้นราคาของ Bitcoin ก็จะร่วงทันที
เช่นวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากเว็บเทรดคริปโตนาม Bancor ถูกแฮ็ก ราคา Bitcoin ก็ร่วงจาก 6,700 ดอลลาร์เป็น 6,300 ดอลลาร์
หรือวันที่ 11 มิถุนายน 2018 มีรายงานว่าเว็บเทรด Coinrail ถูกแฮ็กโดยมีมูลค่ากว่า 40 ล้านดอลลาร์ โดยหลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้ราคา Bitcoin ก็ร่วงจาก 7,300 ดอลลาร์ เป็น 6,800 ดอลลาร์ทันที
คนดังในแวดวงทางการเงินกล่าวโจมตี
ถ้าลองสังเกตหรืออ่านข่าวเกี่ยวกับคริปโตอยู่ตลอดเวลา เรามักจะเจอกูรูหรือเหล่าคนดังออกมาพูดหรือวิจารณ์เกี่ยวกับคริปโตเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นทั้งด้านบวกหรือลบ และราคาก็จะสัมพันธ์กันอยู่เสมอ
ยกตัวอย่างเหตุการณ์เมื่อวันที่ นาย Jamie Dimon หรือประธานและ CEO ของสถาบันทางการเงินบริษัท JP Morgan Chase ออกมาโจมตี Bitcoin ครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2017 ราคา Bitcoin ร่วงลงมาแตะ 3,000 ดอลลาร์ จาก 3,900 ดอลลาร์ทันที อ้างอิงจาก Coinmarketcap
หรือจะเป็นพ่อมดทางการเงินอย่างนาย George Soros ที่ได้ออกมากล่าวถึง Bitcoin ว่า “Bitcoin ได้รับการหนุนจากพวกผู้นำเผด็จการ” เมื่อต้นปี 2018 ก็ทำให้ราคา Bitcoin ร่วงจาก 12,000 ดอลลาร์เป็น 11,000 ดอลลาร์ทันที
สรุป
เหตุการณ์ทั้งสามประเภทกล่าวมาข้างต้นนั้น อาจเป็นแค่แนวทางในการรับมือเรื่องราคาเท่านั้น ไม่ใช่การฟันธงแต่อย่างใด ทางผู้เขียนเองย้ำเตือนเสมอว่าการลงทุนในตัวเหรียญ Cryptocurrency มีความเสี่ยงที่สูงมาก ผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนทำการตัดสินใจลงทุน
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น