นักลงทุนพันล้านนาม Tim Draper ได้ออกมายืนยันถึงจุดยืนของเขาว่าราคาของ Bitcoin นั้นจะพุ่งขึ้นไปแตะที่จุด 250,000 (8,264,000 บาท) ดอลลาร์ภายในปี 2022 ในงานประชุม Web Summit เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้นาย Draper ได้ออกมาทำนายว่าราคาของ Bitcoin จะขึ้นไปที่จุดดังกล่าวเมื่อเดือนเมษายนและเดือนตุลาคมในปีนี้ โดยเขากล่าวในขณะนั้นว่า “ผมเชื่อว่ามันจะต้องเกิดขึ้นแน่ พวกเขาจะคิดว่าคุณนั้นบ้าไปแล้ว แต่เชื่อสิ มันจะต้องเกิดขึ้นแน่ และมันจะเป็นอะไรที่สุดยอดมาก!”
เมื่อถูกตั้งคำถามในงานประชุม Web Summit ว่าเขาคิดว่าราคาของ Bitcoin จะเพิ่มขึ้นถึง 40 เท่าตัวในช่วง 4 ปีหรือไม่ เขาตอบว่า
“ใช่ เรากำลังพูดถึง[…]จำนวนส่วนแบ่งตลาดด้วยจำนวนแค่ 5% เพื่อที่จะไปถึงจุดที่ 250,000 ดอลลาร์ นั่นดูเหมือนเป็นจำนวนที่น้อยมาก และสิ่งที่เราต้องทำก็คือทำให้มันถึงจุดนั้นซะ เพื่อที่ Bitcoin จะสามารถถูกใช้เพื่อซื้อกาแฟ Starbucks ได้ และหลังจากนั้นคนทั่วโลกก็จะหันมาเปิดใจและกล่าวว่า ‘ผมมีตัวเลือกนี้'[…]ถามตัวเองว่าคุณต้องการสกุลเงินที่สามารถถือไปประเทศไหน ๆ แล้วก็ใช้ได้มั้ย[…]หรือต้องการแค่สกุลเงินที่ใช้ได้แค่ในประเทศเดียว หรือภูมิภาคเดียวที่ผมไม่สามารถนำไปใช้ที่ไหนได้”
นาย Draper ยังได้ตั้งคำถามถึงเงินกระดาษหรือ “สกุลเงินของนักการเมือง” โดยกล่าวว่า “ทำไมเราถึงต้องไว้ใจสกุลเงินที่ถูกตัดสินใจโดยพรรคการเมืองแปลก ๆ หรืออย่างอื่นด้วย” ในมุมมองของนาย Draper นั้น เขามองว่า “ธนาคารสามารถที่จะออกสกุลเงินอะไรก็ได้ด้วยเหตุผลตามที่พวกเขาต้องการ” และการเกิดขึ้นของ “การไร้ซึ่งการเมือง” ทั่วโลก และสกุลเงินอิสระแบบเปิดจะสามารถยึดอำนาจด้านการเงินมาจากธนาคารมาให้ประชาชนได้อย่างเป็นธรรม
ก่อนหน้านี้ในงานประชุม GovTech Pioneers เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นาย Draper ได้เสนอถึงมุมมองของเขาในอนาคตถึงการนำเอา blockchain กับ smart contract มาใช้กับปํญญาประดิษฐ์ (AI) ที่จะสามารถเปลี่ยนหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ปกครองรัฐและเมืองแต่ละเมืองได้ “ถ้าหากว่าเรารวมเอา Bitcoin, Blockchain เข้ากับ smart contract และ AI ได้ เราจะสามารถสร้างระบบราชการที่สมบูรณ์แบบได้” เขากล่าว
นอกจากนี้เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เขายังได้ทำนายว่าตัวเลขของตลาดคริปโตนั้นจะพุ่งสูงถึง 80 ล้านล้านดอลลาร์ใรอีก 15 ปี รวมถึงวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ราคาของเหรียญคริปโตในหลาย ๆ เดือนที่ผ่านมาร่วงลงนั้นเป็นเพราะผู้คนยังไม่ได้ปรับตัวใช้สกุลเงินดิจิทัลและ asset class ใหม่ ๆ เขากล่าวว่า
“ตลาดคริปโตจะตามหลังตลาดดอลลาร์ที่มีมูลค่านับล้านล้าน ซึ่งนั่นนับรวมด้านการเงิน, ตลาดด้านสุขภาพและประกันชีวิต, การธนาคารและการลงทุน และรัฐบาล”
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น