Galaxy Digital Holdings LP หรือบริษัทด้าน cryptocurrency merchant bank ที่ถูกก่อตั้งโดยนักลงทุนคริปโตชื่อดังนาม Mike Novogratz ได้ออกมาประกาศสรุปยอดขาดทุนในช่วงไตรมาสที่สามของปี 2018 โดยขาดทุนกว่า 41 ล้านดอลลาร์ ทำให้คิดเป็นตัวเลขขาดทุนรวมของปี 2018 ที่ 136 ล้านดอลลาร์ อ้างอิงจากรายงานของ Bloombergโดยการขาดทุนในช่วงไตรมาสที่สามนั้นส่วนใหญ่มาจากการเทรดเหรียญคริปโตอย่าง Ether, XRP และ Bitcoin ในช่วงตลาดขาลง
แม้ว่าปีนี้จะเป็นปีที่เรารู้กันดีว่ามันเป็นปีที่ค่อนข้างย่ำแย่สำหรับตลาดเหรียญคริปโต แต่ก่อนหน้านี้นาย Mike Novogratz ได้ออกมากล่าวทำนายว่าราคาของ Bitcoin นั้นจะพุ่งขึ้นไปแตะที่ราคา 40,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2018 นี้ ซึ่งการทำนายดังกล่าวมีขึ้นเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนของปีที่แล้ว หลาย ๆ คนคาดการณ์ว่าการทำนายราคาดังกล่าวนั้นอาจเกี่ยวข้องกับการที่บริษัทของเขาขาดทุนก็อาจเป็นได้
ราคา 40,000 ดอลลาร์ที่ปลายปี 2018
นาย Mike ได้ออกมากล่าวในช่วงนั้นว่าราคาของ Bitcoin นั้นได้รับแรงเสริมจากปัจจัยหลัก ๆ อย่างเช่นประกาศเปิดให้บริการซื้อขายตลาด Bitcoin Futures โดย Chicago Mercantile Exchange (CME) ที่จะมี JPMorgan Chase เข้ามาร่วมลงทุนด้วย และนอกจากนี้ก็ยังมีธนาคารที่ใหญ่ระดับโลกรีบกระโดดเข้ามาในตลาดนี้อีกมากมาย
“ราคาของ Bitcoin น่าจะขึ้นไปอยู่ที่ 40,000 ดอลลาร์แบบง่ายๆเลย ในช่วงปลายปี 2018 ในขณะที่ราคาของ Ethereum ที่เพิ่งจะแตะ 500 ดอลลาร์หรือกำลังเข้าไปใกล้ น่าจะเพิ่มขึ้นไปอีกสามเท่าด้วย”
ทว่าในขณะที่กำลังรายงานข่าวอยู่นี้ สิ้นปี 2018 ก็กำลังคลืบคลานเข้ามาอย่างช้า ๆ และนักลงทุนคริปโตก็กำลังอยู่ในช่วงตลาดขาลง ที่ในขณะนี้ราคาของเหรียญคริปโตได้ร่วงลงมามากกว่า 80% นับตั้งแต่จุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ที่ต้นปี 2018 ที่ราคา 20,000 ดอลลาร์ ซึ่งการจะได้เห็นราคาที่ 40,000 ดอลลาร์ตามที่นาย Mike คาดการณ์นั้น เรายังเหลือราคาอีก 35,845 หน่วย หากนับจากราคาปัจจุบันที่ 4,155 ดอลลาร์ อ้างอิงจาก Coinmarketcap
ซึ่งนั่นหมายความว่าราคาของ Bitcoin นั้นจะต้องเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยวันละ 1,236 ดอลลาร์ จนกว่าจะถึงวันสิ้นปี 2018 ถึงจะไปถึง 40,000 ดอลลาร์ตามที่เขาคาดการณ์ได้
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น