Bitcoin มีราคาลงมาต่ำกว่า 4,000 ดอลลาร์อีกครั้ง
ถึงแม้ว่าจะมีข่าว ๆ ดี ๆ มากมายเช่นสถาบันต่าง ๆ เริ่มจะเปิดช่องทางให้ลงทุน Bitcoin ได้มากขึ้น แต่ดูเหมือนว่า มันจะไม่มีผลดีอะไรกับ Bitcoin เลย อ้างอิงจาก Coinmarketcap เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2018 ราคา Bitcoin ร่วงลงไปต่ำกว่าระดับ 4,000 ดอลลาร์อีกครั้ง หลังจากที่รักษาระดับได้เกือบ 1 สัปดาห์
ทิศทางต่อไป
ได้มีผู้ใช้บัญชี Twitter นาม The Crypto Dog ซึ่งเป็นนักวิเคราะห์ด้านคริปโตและ Blockchain ที่มีผู้ติดตามกว่าแสนคน ออกมาวิเคราะห์ว่า ราคาต่อไปของ Bitcoin มีสิทธิไปทิศทางไหนต่อ เขาได้ใช้เส้น Fibonacci Retracement เป็นตัววัดว่า พฤติกรรมราคาของ Bitcoin จะเป็นอย่างไร
เขาได้ชี้ว่า Bitcoin มีสิทธิที่จะรักษาในระดับ 3,928 ดอลลาร์ไว้ ในรอบนี้ แนวรับนี้จะทนต่อการเทขายได้ในสายตาเขา อย่างไรก็ตาม สำหรับพฤติกรรมราคาแบบนี้ The Crypto Dog ยังคงมองว่า Bitcoin มีสภาพที่ค่อยสู้ดีเท่าไรนัก
“ตอนนี้เรายังอยู่ในตลาดหมี เราเริ่มเข้าใกล้จุดจบของมันแล้ว แต่ก็อย่าเพิ่งมอง Bitcoin ในแง่บวกเกินไปมากกว่า 4,000 ดอลลาร์ในตอนนี้ ซึ่งอาจมีสิทธิลงไปทดสอบจุดต่ำสุดได้อีกด้วย”
If this closes above the 50, I imagine we’re in for more chop and less drop.
The volume on this move wasn’t terribly significant, I’m not doing a dance over my short just yet. pic.twitter.com/S1JHK4nQ0K
— The Crypto Dog? (@TheCryptoDog) December 3, 2018
ภาพรวมในระยะยาว
นาย Eric Thies หุ้นส่วนของ UTR Equities แพลตฟอร์มการเทรดยักษ์ใหญ่ ได้ออกมาสร้างความมั่นใจให้กับชุมชนคริปโตว่า มันยังมีโอกาสไปแตะ 20,000 ดอลลาร์อยู่
นาย Thies ได้กล่าวว่า ในที่สุดราคาของ Bitcoin ก็จะถึงจุดที่หยุดไหลลงต่อ และมันจะพุ่งทะยานไปถึง 20,000 ดอลลาร์ในอนาคต
Friendly reminder if you’re having trouble figuring where to scale in price-wise for #bitcoin price action …
the next floor will be above $20k ???
— Eric Thies (@KingThies) December 3, 2018
นักวิเคราะห์คนอื่น ๆ เช่นนาย Tom Lee หัวหน้าฝ่ายวิจัยจาก Fundstart ก็ยังคงมั่นใจในคำทำนายของเขาว่า ในปลายปีนี้ ราคาของ Bitcoin จะพุ่งทะยานไปแตะ 15,000 ดอลลาร์ได้อยู่ เนื่องจากเงินของสถาบันการเงินที่ไหลเข้ามา ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่ถึงเดือนเท่านั้นที่คำทำนายจะเป็นจริง แต่ก่อนหน้านี้ Bakkt ที่เป็น Bitcoin Futures ของ ICE ได้เลื่อนการเปิดตัวจากเดือนธันวาคมนี้ไปเป็นต้นปี 2019 แทน ทำให้การไหลเข้ามาของเงินสถาบันเลื่อนออกไปอีก
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น