โรงเรียนสอนธุรกิจในประเทศเกาหลีใต้กำลังเสนอหลักสูตรปริญญาโทด้านคริปโต โดยมีชื่อว่า Crypto MBA เป็นโปรแกรมหนึ่งปีครึ่งที่ครอบคลุมหัวข้อต่าง ๆ เช่นเรื่อง Bitcoin, Ethereum, Smart Contracts, Crypto Funds, ทฤษฎีเกมและการเขียน Whitepaper ในขณะเดียวกันทางรัฐบาลก็กำลังดำเนินการด้านกฏหมายควบคู่ไปด้วย
Crypto MBA
ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาโรงเรียนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกรุงโซลหรือที่รู้จักกันในนาม Assist ประกาศว่าขณะนี้เปิดสอนหลักสูตรปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจ (MBA) ด้านคริปโตและเทคโนโลยี Blockchain แล้ว โดยหลักสูตรนี้มีชื่อว่า “หลักสูตรปริญญาโทในด้าน Blockchain, Cryptoeconomics โทเคน Economy, Cryptoeconomic และมุมมองเชิงกลยุทธ์ทางธุรกิจ” โดยทาง Assist อธิบายว่า:
“ภารกิจของการจัดตั้งหลักสูตรนี้เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดการวิจัยเชิงวิชาการและการศึกษาอย่างเป็นระบบที่มีอยู่ในอุตสาหกรรมในปัจจุบัน แม้ว่าจะมีความสนใจเป็นอย่างมากในเรื่องของ Blockchain และคริปโต”
หลักสูตรและระเบียบข้อบังคับของคริปโต
อ้างอิงจากประกาศหลักสูตรนี้ประกอบไปด้วย “Bitcoin, Ethereum, smart contract, cryptology, EOS และอื่น ๆ” โดยเรื่องของ Cryproeconomics ประกอบไปด้วย การศึกษาเรื่องสกุลเงินดิจิทัล, เศรษฐศาสตร์จุลภาค, เศรษฐศาสตร์มหภาค, พฤติกรรมและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงิน นอกจากนี้นักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการ, กลยุทธ์การตลาดของเงินดิจิทัล, การเขียน Whitepaper
ทางด้านรัฐบาลก็ยังคงดูแลเรื่องกฏระเบียบของคริปโตในประเทศตั้งแต่การใช้ระบบชื่อจริงในเดือนมกราคมที่ผ่านมา แบะการระดมทุน ICO ก็ถูกแบนตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามนักกฏหมายหลายคนก็เริ่มที่จะร่างกฏหมายเพื่อมาควบคุมมัน
มีจำนวนมากขึ้น
ในขณะที่ Assist เพิ่งเปิดหลักสูตรปริญญาโทด้านคริปโตนั้น จริงแล้วจำนวนคอร์สด้านคริปโตก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่นที่ Stanford Graduate School of Business, Wharton School of University of Pennsylvania และ Georgetown University Mcdonough School of Business
ทาง CNBC ได้รายงานว่า สถาบันชั้นนำเหล่านี้ ได้ขยายคอร์สเรียนในด้านของสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของนักเรียนและนายจ้างในอนาคตนั่นเอง
เห็นได้ว่าปัจจุบันนี้โรงเรียนหรือสถานศึกษาต่าง ๆ ก็เริ่มหันมาสนใจหลักสูตรด้าน Blockchain และคริปโตกันอย่างมากมาย โดยในประเทศไทยก็เริ่มมีมหาวิทยาลัยหันมาสนใจใน Blockchain มากยิ่งขึ้นได้แก่ ABAC และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ด้วยเช่นกัน
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น