หลังจากที่ราคาของเหรียญดังกล่าวพุ่งขึ้นมากว่า 200% ภายในไม่กี่วัน จนทำให้หลาย ๆ คนต้องหันมามองมันอย่างจริงจัง ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้มันเป็นเพียงแค่เหรียญ altcoin ตัวหนึ่ง ที่อยู่อันดับที่ 300 กว่าของโลกเท่านั้น จนล่าสุดนั้นมันได้ขยับมาอันดับที่ 136 ของโลกแล้ว และอาจจะขยับขึ้น Top 100 ในเร็ว ๆ นี้ คำถามคือ เหรียญดังกล่าวคืออะไร และคุณควรลงทุนกับมันอย่างจริงจังหรือไม่
#1 – Everex คืออะไร ?
Everex – หลักการพื้นฐาน
- การโอนเงินข้ามประเทศนั้นยังคงเป็นความท้าทายทางการเงินอยู่แม้กระทั่งในปัจจบันนี้ อีกทั้งยังต้องอาศัยเวลาและเงินทุนมากพอสมควรในการดำเนินการอีกด้วย
- Everex นั้นเป็นระบบแพลตฟอร์มการชำระเงินระหว่างบุคคลถึงอีกบุคคลหนึ่งซึ่งมีเป้าหมายในการดำเนินการคือการแก้ไขปัญหาดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวนั้นเป็นการอำนวนความสะดวกให้ผู้ใช้บริการสามารถดำเนินธุรกรรมข้ามประเทศรวมถึงการชำระเงินรายย่อยผ่านระบบเครือข่ายเทคโนโลยี Blockchain ได้
- การดำเนินการของบริษัทนั้นต้องการที่จะสร้างระบบที่มีความรวดเร็ว โปร่งใส ราคาถูกและมีความปลอดภัยสำหรับการดำเนินธุรกรรมการชำระเงินข้ามประเทศซึ่งมีความง่ายดายมากขึ้น เป้าหมายหลักของทางบริษัทนั้นคือการมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบและระเบียบวิธีของการชำระเงินที่ใช้อยู่ในปัจจุบันด้วยสินค้าใหม่ๆของทางบริษัทอย่างเช่น Chainy, Cryptocash, Ethplorer, และ Everex Wallet.
การพัฒนาของบริษัท Everex
- Everex นั้นก่อตั้งโดยนาย Alexi Lan ซึ่งเป็นทั้งนักธุรกิจในธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงินและนักลงทุน เขามีประสบการณ์กว่า 15 ปี ในด้านตลาดทุน
- Lane ยังได้มีประสบการณ์การทำงานเฉพาะด้านในด้านการพัฒนาทางเทคโนโลยี Blockchain และบริการทางการเงินถึงสองปี
- นาย Alexi นั้นยังเคยมีประสบการณ์ทำงานในบริษัทด้านการเงินระดับโลก Morgan Stanley ในด้านตลาดทุนและอุตสาหกรรมด้านการเงินถึง 15 ปีก่อนที่จะมาก่อตั้งสตาร์ทอัพดังกล่าว
#2 –ประโยชน์ที่จะได้จาก Everex คืออะไร
เทคโนโลยีของทางบริษัท Everex
- เทคโนโลยีของทางบริษัท Everex นั้นได้ถูกสร้างขึ้นโดยมีสามผลิตภัณฑ์หลัก ๆ ของ Everex คือ Ethplorer, Wallet, ซึ่ง Ethplorer นั้นเป็น token explorer สำหรับเหรียญ Ethereum ซึ่งมีวิธีการเรียกใช้โปรแกรมแบบเปิด (open API) ต่อมาคือ wallet ของทาง Everex ซึ่งเป็นบริการที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถที่จะซื้อขาย เก็บ โอนถ่าย รวมถึงซื้อขายสกุลเงินสกุล fiat และเงินสกุลอื่นๆ ผ่านระบบเครือข่าย Blockchain ของทางบริษัทได้อีกด้วย ผลิตภัณฑ์สุดท้ายคือ Chainy ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ระบบจัดการข้อมูลเอกสารแบบสัญญาอัจฉริยะหรือ smart contract ซึ่งมีความปลอดภัยสูงบนฐานของ Ethereum
- โดยแก่นของการวางระบบเทคโนโลยีดังกล่าวแล้วคือเทคโนโลยีการทำให้เป็นสกุลเงินดิจิทัลหรือ tokenisation การที่ทางบริษัทได้ทำการเปลี่ยนแปลงสกุลเงินในพื้นที่ไปสู่สกุลเงิน Fiat แบบดิจิทัลนั้นทำหน้าหน้าที่เป็นเสมือนสะพานเชื่อมต่อระหว่างสกุลเงิน Fiat และสกุลเงินคริปโต สกุลเงิน Fiat แบบดิจิทัลนั้นได้ดำเนินการโดยอาศัยระบบสัญญาอัจฉริยะหรือ smart contracts ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาความผันผวนไม่แน่นอนตามธรรมชาติของสกุลเงินคริปโต
- ทางบริษัท Everex ได้ดำเนิการร่วมกับ Cryptocash ซึ่งเป็นบริษัทเงินสำรองในรูปแบบของเหรียญที่มีความผันผวนต่ำหรือ Stablecoin ที่ทุกหน่วยของเหรียญนั้นแปรผันตรงกับสกุลเงิน Fiat ทั้งนี้ผู้ใช้งานนั้นจะสามารถดำเนินการได้โดยอาศัยบริการของทางบริษัทในการแลกเปลี่ยนเงินสดเป็นเงินดิจิทัลในรูปของ Cryptocash ได้ ณ ธนาคารในพื้นที่และยังสามารถใช้เงินดังกล่าวผ่าน Wallet ในมือถือหรือคอมพิวเตอร์บนระบบเครือข่ายระหว่างบุคคลหรือ P2P network ดังนั้นสกุลเงินคริปโตดังกล่าวจึงช่วยให้บริษัท Everex สามารถให้บริการกู้ยืมรายย่อยโดยปราศจากปัจจัยด้านความผันผวนซึ่งมักจะเกิดขึ้นกับสกุลเงินคริปโตแบบดั้งเดิมได้
- แพลตฟอร์มดังกล่าวได้ดำเนินการบนสถาปัตยกรรมแบบ Service-Oriented Architecture (SOA) ซึ่งประกอบไปด้วยองค์ประกอบสองส่วน คือส่วนของระบบทางบริษัท Everex และส่วนของ Blockchain โดยทั้งสองส่วนนี้ได้ตอบสนองต่อเป้าหมายที่แตกต่างกันระหว่างการดำเนินการกับระบบ Blockchain อื่นๆ และระบบการโอนย้ายทุน (Capital Tranfer System)
การใช้งานในเชิงธุรกิจ
- เวลาเป็นจำนวนมากได้ถูกใช้ไปกับกระบวนการดำเนินธุรกรรมระหว่างประเทศของธนาคารทั้งหลาย และได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินการของธุรกิจรายย่อย (SMEs)ในระดับต่างๆ ในทางกลับกันด้วยระบบเครือข่าย Blockchain นั้นสามารถดำเนินกระบวนการดังกล่าวเสร็จได้ในทันที ดังนั้นธุรกรรมต่างๆซึ่งดำเนินการโดยอาศัยระบบ Blockchain จึงมีความปลอดภัยและมาพร้อมกับค่าธรรมเนียมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
- ด้วยวิธีการดำเนินการทางการเงินดังกล่าวของ Everex นั้นสามารถที่จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ภาคธุรกิจโดยเฉพาะเหล่าธุรกิจรายย่อยในแง่ของการเพิ่มศักยภาพในการทำงานและความสะดวกในการเข้าถึงระบบเงินทึนดังกล่าว ซึ่งมีส่วนช่วยสนับสนุนการเข้าสู่ตลาดที่มีการแข่งขันสูงเป็นอย่างมาก
#3 – การจะซื้อหรือเก็บรักษาเหรียญของ Everex นั้นต้องทำอย่างไร
เหรียญของ Everex (EVX) นั้นถูกใช้ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบรางวัลสำหรบผู้ใช้และนักพัฒนาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบองค์รวมของบริษะท Everex ทั้งหมด โดยการทำงานของระบบรางวัลนั้นคล้ายคลึงกับระบบสมาชิก ซึ่งคะแนนเครดิตรวมถึงกลไลที่ใช้ผลักดันให้มีการสร้างสรรงานนั้นสามารถใช้โดยอาศัยเหรียญ EVX เท่านั้น อีกทั้งเหรียญดังกล่าวยังได้ถูกใช้งานในการดำเนินการภายในของบริษัทในระบบการโอนทุนทรัพย์ต่างๆอีกด้วย
เราจะซื้อเหรียญของ Everex ได้อย่างไร
เหรียญ EVX นั้นสามารถซื้อได้จากเว็บ Exchange ชื่อดังอย่าง Binance, Bx และ Kucoin โดยเหรียญดังกล่าวนั้นอยู่ในตระกูลเหรียญซึ่งอยู่บนมาตรฐาน ERC20 และยังสามารถซื้อเหรียญดังกล่าวผ่าน Ethereum wallet ใดๆก็ได้อีกด้วย
- CoinSwitch ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ได้เปิดให้มีการแลกเปลี่ยนคริปโตไปสู่สกุลเงินของ Everex ได้แล้วโดยได้มีตัวเลือกถึง 45,000 สกุลในการนำมาแลกเปลี่ยนเป็นเหรียญดังกล่าว
- นอกจากนั้นแล้ว CoinSwitch ยังช่วยแก้ปัญหาในการที่ผู้ใช้จะต้องถือ Wallet หลายบัญชีซึ่งขึ้นกับเว็บ Exchange แต่ละบริษัทในการเก็บรักษาเหรียญ EVX ของตน ซึ่งทาง CoinSwitch นั้นดำเนินธุรกรรมทุกรายการผ่าน Wallet ส่วนตัวของผู้ใช้โดยตรง
พื้นที่สำหรับเก็บรักษาเหรียญ
เหรียญ EVX นั้นสามารถเก็บไว้ใน Wallet สำหรับ Ethereum ได้ทุกรูปแบบอย่างเช่น MyEtherWallet, Mist, และอื่นๆ ซึ่งการเริ่มดำเนินการนั้นทำได้โดยทำการดาวน์โหลด Wallet ดังกล่าวลงในอุปกรณ์และติดตั้งให้เสร็จสิ้น นอกจากนั้นยังสามารถใช้ Hardware Wallet ซึ่งเป็นวิธีการเก็บข้อมูลที่มีความปลอดภัยสูงอีกรูปแบบหนึ่งเช่นเดียวกันในการเก็บรักษาเหรียญ EVX อย่างเช่น Ledger Nano S หรือ Trezor
#4 – อนาคตของ Everex นั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป
- ในตลอดสองปีที่ผ่านมาสำหรับการวางรากฐานของบริษัท ทาง Everex นั้นได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์หลักไปแล้วจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งเป้าไว้ อีกทั้งการมี Crypto-cash ซึ่งเป็นระบบสกุลเงินบนฐานของ Ethereum ที่มูลค่าแปรผันตรงตามสกุลเงิน Fiat เป็นแนวร่วมนั้นเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพอย่างมาก ทางบริษัทได้ตั้งเป้าในการลดเวลาที่ใช้ในการดำเนินธุรกรรมทางการเงินให้สั้นลงจากหลักวัน เหลือแค่เพียงไม่กี่วินาทีโดยการดำเนินการผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าว
- ในอนาคต Everex นั้นวางแผนที่จะใช้เงินทุนจำนวน 25% ของบริษัทในการสร้างแพลตฟอร์มการให้กู้เงินแก่รายย่อย โดยทางบริษัทจะใช้มาตรการ credit-scoring แบบอัตโนมัติและมาตรการ KYC ในการพิจารณาการอนุมัติการให้กู้เงินที่มีความรวดเร็ว
- นอกจากที่กล่าวมาทั้งหมดแล้วยังพบว่า การรวบรวมเงินทุนของทางบริษัทนั้นจะอุทิศให้แก่การพัฒนาทางเทคโนโลยีและการทำการตลาดสำหรับเครือข่ายระหว่างบุคคลหรือ P2P ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยช่วงการขยายตลาดนี้ทางบริษัท Everex ได้ดำเนินการหาช่องทางในการพัฒนาทางธุรกิจในพื้นที่แถบยุโรป อเมริกา อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้
- การขยายรูปแบบของผลิตภัณฑ์นั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาทางธุรกิจของ Everex เช่นดียวกัน โดยทางบริษัทได้มีแผนการในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมดังนี้
- การให้บริการกู้ยืม
- การให้บริการประกันภัย
- การระดมทุนผ่าน Cryptocash
- การให้บริการปรึกษาด้านเทคโนโลยี Blockchain ระหว่างธุรกิจ
ประวัติราคา
เหรียญ EVX นั้นถูกเปิดตัวที่ 2.10 ดอลลาร์ อ้างอิงจาก ICOdrops โดยภายหลังจากให้เปิดซื้อขายนั้น ราคาก็ได้ไต่ระดับ โดยเกาะกระแสตลาดคริปโตของเหรียญอื่น ๆ ขึ้นไป จนทำให้มีมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์อยู่ที่ 6.13 ดอลลาร์ อ้างอิงจากกราฟของ Coingecko
ทว่าภายหลังจากนั้น เมื่อตลาดคริปโตนั้นกลับตัวกลายเป็นขาลง ราคาก็ได้ร่วงลงมาเรื่อย ๆ จนเมื่อประมาณวันที่ 2 เมษายน 2018 ราคาของเหรียญ EVX ก็ได้ร่วงต่ำลงกว่า 1 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกของโลก จากนั้นก็ยัง sideway อยู่ในระดับ 1.8-1 ดอลลาร์ ก่อนที่จะร่วงต่ำกว่า 1 ดอลลาร์ลงมาอีกครั้งในวันที่ 10 มิถุนายน 2018 และหลังจากนั้น EVX ก็ไม่มีวันขึ้นสูงกว่า 1 ดอลลาร์อีก จนกระทั่ง
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมา ราคาของเหรียญ EVX นั้นก็ได้มีการพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง หลังจากที่มีประกาศว่าทางรัฐบาลแห่งรัฐนิวเจอร์ซีนั้นอนุญาตให้ประชาชนในรัฐสามารถลงทุนเหรียญ EVX แบบ crypto-to-crypto ได้ ซึ่งราคาก็ยังไม่หยุดพุ่งแต่เพียงแค่นั้น แต่ยังเพิ่มขึ้นกลับมาทะลุ 1 ดอลลาร์ อีกด้วย
โดยในขณะที่กำลังเขียนบทความ ณ วันที่ 27 มีนาคม 2019 นี้ ราคาของเหรียญ EVX นั้นอยู่ที่ 1.20 ดอลลาร์
#5 – สิ่งที่ทำให้ Everex นั้นแตกต่างจากสกุลเงินคริปโตอื่นๆ
คู่แข่งสำคัญของทางบริษัทในขณะนี้คือ OmiseGo ซึ่งทั้งสองต่างเป็นแพลตฟอร์มที่มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาของการดำเนินกิจกรรมทางการเงินนอกระบบ โดยทาง OmiseGo นั้นเป็นแพลตฟอร์มระหว่างธุรกิจซึ่งปราศจากบริการการให้กู้ยืมเงินรายย่อยซึ่งต่างจากทาง Everex
โดยเฉพาะอย่างยิ่งทาง Everex นั้นเป็นบริษัทเพียงบริษัทเดียวที่ดำเนินระบบธุรกรรมทางการเงินอย่างโปร่งใส่ 100% ในตลาด อีกทั้งหนึ่งในเป้าประสงค์หลักของทางบริษัทเป็นการเพิ่มจำนวนการใช้มือถือในการดำเนินธุรกรรมทางการเงิน อีกทั้งยังเป็นการนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ในระบบการเงินของทางบริษัทอีกด้วย
มันเป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี Blockchain และซอฟต์แวร์ machine learning อย่างลงตัวในการสร้างบริการทางการเงินที่ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้ง่าย
ข้อมูลทางการเงินและข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้นั้นจะถูกเก็บและนำไปวิเคราะห์ผ่านเครือข่าย Blockchain ของทาง Everex สำหรับการพิจารณาเครดิตและการให้กู้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวนั้นอยู่บนสถาปัตยกรรมแบบ Service-Oriented Architecture (SOA) ที่ดำเนินการประมวลผลธุรกรรมทุกรายการผ่านองค์ประกอบทั้งหลายบนเครือข่าย
การดำเนินการดังกล่าวบนฐานของ Blockchain ได้แก่การดำเนินธุรกรรมบนเครือข่ายระหว่างบุคคลหรือ P2P network และแพลต์ฟอร์มการให้กู้เงินแก่ผู้กู้รายย่อย โดยอาศัย Wallet ซึ่งอยู่บนระบบสัญญาอัจฉริยะหรือ smart contract ของทางบริษัท อีกทั้งการนำ Cryptocash มาใช้งานของทางบริษัทนั้นทำให้การใช้จ่ายสกุลเงินคริปโตดังกล่าวนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น
#6 – สรุปแล้วเราควรที่จะลงทุนใน Everex หรือไม่
การลงทุนในบริษัท Everex นั้นพิจารณาได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการลงทุนระยะยาวในตลาดเทคโนโลยีทางการเงิน ซึ่งส่วนหนึ่งพิจารณาจากแผนการดำเนินธุรกิจของทางบริษัทที่มีเป้าหมายในการเจาะตลาดการดำเนินธุรกรรมระหว่างบุคคลและการดำเนินการในเชิงพาณิชย์ที่สามารถเพิ่มจำนวนกลุ่มผู้ใช้งานได้มากขึ้น
ความสำเร็จทางตลาดดังกล่าวนั้นจะส่งผลเป็นการผลักดันให้มีการร่วมมือกับบริษัทให้คำปรึกษาทางการเงินใหญ่ๆ รวมถึงบริษัทข้อมูลอื่นๆอีกมาก
ความต้องการอย่างแท้จริงในการสร้างผลิตภัณฑ์จริงของ Everex ซึ่งมีเป้าหมายในการร่วมพัฒนาระบบการชำระเงินข้ามประเทศทั่วโลกนั้นทำให้สิ่งที่บริษัทกำลังดำเนินการนั้นยิ่งทวีคูณความสำคัญเพิ่มขึ้นไปอีก
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น