<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ผู้สนับสนุน Bitcoin เร่งหน่วยงานหลายฝ่ายร่วมมือกันกำจัดแชร์ลูกโซ่คริปโต

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

โดยอ้างอิงจากการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 8 ที่ในการประชุมจะมีการพิจารณาญัตติด่วน 16 เรื่อง และญัตติที่เสนอใหม่ 5 เรื่องนั้น ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ได้มีการหยิบยกปัญหาเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีสกุลเงินดิจิทัลไปแอบอ้างในการหลอกลวงให้ประชาชนนำเงินมาลงทุนในแชร์ลูกโซ่ต่อกระทรวงมหาดไทย

เขาได้กล่าวว่า

“เทคโนโลยี Blockchain และสกุลเงินดิจิทัลเป็นโอกาสที่สำคัญที่จะทำให้ประเทศเราพัฒนาอย่างก้าวกระโดดได้ แต่เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ ทุกวันนี้มีผู้ที่นำชื่อของสกุลเงินดิจิทัลไปจัดตั้งแชร์ลูกโซ่และหลอกลวงประชาชนให้นำเงินมาลงทุน มีผู้ตกเป็นเหยื่อมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นพี่น้องประชาชนในต่างจังหวัด ที่ผ่านมาทางสำนักงาน ก.ล.ต. เนี่ยก็ทำงานเป็นอย่างดีในการทำงานออกแถลงการณ์ตักเตือนประชาชนให้ระมัดระวังแชร์ลูกโซ่ต่าง ๆ เช่น OneCoin, FX Trading Corp, Tradenance นะครับ

แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือทาง ก.ล.ต. ออกแถลงการณ์ในฐานะผู้ที่กำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ไม่ได้กำกับดูแลเรื่องแชร์ลูกโซ่โดยตรง ทำให้ดำเนินการใด ๆ ต่อเนี่ยได้ยาก

และอีกข้อนึงก็คือ ก.ล.ต. เนี่ย ไม่ได้เป็นหน่วยงานที่มีความใกล้ชิดกับประชาชน ไม่ได้เป็นที่รู้จักของประชาชนอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่ไม่ได้มีความรู้ด้านการเงินการลงทุนมากนัก ทำให้เราพบปฏิกิริยาเชิงลบที่มีต่อ ก.ล.ต. พูดง่าย ๆ ก็คือประชาชนเนี่ยเค้าไม่ได้เชื่อถือ ก.ล.ต. เพราะเราต้องยอมรับครับว่าสังคมไทยเนี่ย เรามีมิติความสัมพันธ์ในเชิงท้องถิ่นเนี่ย ที่ดีกว่าความสัมพันธ์กับหน่วยงานของรัฐโดยตรงนะครับ

และก็ความน่ากลัวของแชร์ลูกโซ่ที่อยู่ในรูปแบบของสกุลเงินดิจิทัลนะครับก็คือการตามหาตัวผู้ทำผิดมาลงโทษเนี่ยเป็นไปได้ยากมาก ๆ ไม่เหมือนสมัยแชร์แม่ชม้อยเมื่อก่อน

สิ่งที่ผมอยากจะหารือก็คืออยากจะให้หน่วยงานก.ล.ตเนี่ย พร้อมกับหน่วยงานของกระทรวงการคลังที่กำกับดูแลพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนบูรณาการร่วมกับกระทรวงมหาดไทยในการส่งคำเตือนไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อให้เตือนประชาชนโดยตรง เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้มีประชาชนตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่เหล่านี้เพิ่มขึ้นอีก”

นายปกรณ์วุฒิให้สัมภาษณ์กับทางสยามบล็อกเชนว่าข้อหารือดังกล่าวนั้นจะถูกส่งหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และหน่วยงานจะแจ้งความคืบหน้ากลับมาภายใน 30 วัน

ก่อนหน้านี้ทางสยาบมบล็อกเชนได้รายงานไปแล้วว่าทาง ก.ล.ต. นั้นได้ออกมาเตือนนักลงทุนในไทยเกี่ยวกับธุรกิจที่เสี่ยงว่าจะเป็นแชร์ลูกโซ่ อย่างเช่น OneCoin รวมถึงธุรกิจที่แอบอ้างว่าได้รับอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจได้จาก ก.ล.ต. แล้วอย่าง FX Trading Corp และ Tradenance

ซึ่งภายหลังจากการออกมาเตือนนั้น ดูเหมือนว่าจะมีกระแสต่อต้านจากผู้ที่ทำธุรกิจดังกล่าวมากมาย โดยส่วนใหญ่นั้นเป็นไปในทิศทางเชิงประมาณว่า “ก.ล.ต. เข้ามาขัดขวางคนกำลังจะรวย

ส.ส.ปกรณ์วุฒินั้นเป็นที่รู้จักกันดีอย่างมากในวงการ cryptocurrency และ blockchain ในไทย เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นผู้ก่อตั้งสถานกวดวิชาด้านคริปโตนามว่า Bitcoin Center Thailand เพื่อให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีดังกล่าวกับประชาชนโดยตรง นอกจากนี้สถาบันกวดวิชาดังกล่าวยังได้มีการจับมือกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังอีกด้วย

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น