<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ราคา Bitcoin จะพุ่งไปแตะ 70,000 ดอลลาร์ และพวกอคติ “อย่าได้เข้ามายุ่ง” กล่าวโดยนักวิเคราะห์ใจกล้า

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นาย Brian Fletcher นักวิเคราะห์ด้านเทคนิคและเป็นผู้จัดการของ Seeking Alpha ได้กล่าวว่า Bitcoin กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในแพทเทิร์นของ Elliott Wave ตามที่คาดไว้

นาย Brian Fletcher ใช้ทฤษฎี Elliott Wave เพื่อทำนายการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ราคาตามหลักจิตวิทยาของฝูงชน (crowd psychology) ที่ปรากฏในคลื่นเวฟ

ในเวฟที่ 5 สำหรับ Bitcoin เขากล่าวว่า BTC นั้นถูกกำหนดให้พุ่งขึ้นอยู่ที่ระดับ 10,000 ดอลลาร์ ก่อนที่จะร่วงลงมาอยู่ที่ประมาณ 7,000 ดอลลาร์ หลังจากนั้นเขาเชื่อว่า Bitcoin จะเริ่มเข้าสู่ช่วง Bull run ในระยะยาว จนกระทั่งสามารถพุ่งแตะจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง

“เวฟที่ 4 นั่นได้สิ้นสุดลงไปแล้วเมื่อช่วงปลายปี 2018 และในขณะนี้ BTC มันกำลังเริ่มปรับตัวขึ้นไปสู่ระดับ 70,000 ดอลลาร์

ในส่วน c-wave ของ w-wave เริ่มก่อตัวเป็นเส้นทแยงมุม ซึ่งนั่นบ่งบอกได้ว่ามันกำลังจะสร้างคลื่นที่สูงขึ้นไปยังเวฟ 4 ที่ระดับ 10,000 ดอลลาร์ก่อนที่จะร่วงลงมายังเวฟที่ 5 ที่ระดับ 6,900 ดอลลาร์”

อย่างไรก็ตามคริปโตนั้นมีความเสี่ยงสูงมากและนักลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนไปทั้งหมด แต่ถึงกระนั้น Fletcher ยังคิดว่าจะแบ่งไม้เล็ก ๆ เพื่อข้าซื้อ Bitcoin สำหรับช่วงเวลานี้

“Bitcoin กำลังทรงตัวอยู่ในระดับที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คุณมีทางเลือกง่าย ๆ เลยนั้นก็คือ อย่าเทรด ! อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่ยินดีที่จะเจียดเงินทุนเล็ก ๆ ให้กับโอกาสนี้มันก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม”

Ethereum

สมาคมบาสเก็ตบอลแห่งชาติ (NBA) กล่าวว่า Sacramento Kings เป็นทีมนักกีฬามืออาชีพรายแรกที่เปิดตัวของสะสมเป็นคริปโตในสหรัฐอเมริกา

ของเล่นไวนิลที่ขับเคลื่อนด้วยเหรียญ Ethereum จะถูกสร้างขึ้นโดย CryptoKaiju และมอบให้กับแฟน ๆ ตลอดฤดูกาล 2019-2020

“ของเล่นแต่ละชิ้นได้รับการค้ำประกันโดยโทเค็นที่ไม่สามารถใช้ทดแทนกันได้ (non-fungible token) ซึ่งนั่นหมายความว่าไม่มีของเล่น Kaijus ชิ้นไหนที่เหมือนกันและแต่ละตัวจะมีคำอธิบายและคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวมันเอง ซึ่งสามารถตรวจสอบได้บน blockchain

โดยจะมีของเล่นที่หายากจำนวนทั้งหมด 15 ชิ้น ซึ่ง non-fungible token จะเปิดเผยประสบการณ์หรือรางวัลที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงที่นั่งวีไอพี , สินค้าที่มีลายเซ็นต์ของ Sacramento Kings และสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย”

Ripple และ XRP

นาย Bob Ras ซีอีโอของ CoinField กำลังได้ตอบคำถามหลายข้อเกี่ยวกับ Sologenic แพลตฟอร์มการซื้อขายโทเค็นหุ้น (tokenized stock) ซึ่งเป็นการนำเหรียญ XRP มาใช้

Ras ยืนยันว่าแพลตฟอร์มนี้จะช่วยสร้างมูลค่าให้กับหุ้นหลายพันหุ้นอย่างเช่น Apple (AAPL) จับคู่กันกับ  XRP และเหรียญ stablecoin ตัวใหม่ที่มีชื่อว่า SOLO

เมื่อถูกถามว่าทำไม CoinField ถึงต้องจับคู่เงินกับ SOLO และทำไมถึงไม่พึ่งพา XRP เพียงอย่างเดียว Ras กล่าวว่า SOLO จะถูกใช้เพื่อเสนอฟีเจอร์อื่น ๆ เพิ่มเติมอย่างเช่น ส่วนลดค่าธรรมเนียมในการซื้อขายและการโหวตจากชุมชน

“SOLO ได้รับการออกแบบมาเพื่อทำการตลาดและการจัดหาสภาพคล่องโดยเฉพาะ ในขณะที่สินทรัพย์โทเค็นทั้งหมดสามารถซื้อขายกับ XRP หรือ SOLO ได้ ตัวอย่างเช่นผู้ใช้สามารถตัดสินใจที่จะแลกเปลี่ยนหุ้นโทเค็นของแอปเปิ้ล “AAPL” ไปเป็น XRP หรือ SOLO ก็ได้

โดยพื้นฐานแล้วหุ้นทั้งหมดหรือ stablecoins จะถูกจับคู่กับ XRP และ SOLO ซึ่งมันจะช่วยเพิ่มวอลุ่มการซื้อขายให้กับเหรียญทั้งคู่  โดย SOLO จะทำงานร่วมกับ XRP ภายในระบบนิเวศน์ของ Sologenic เพื่อให้ทุกองค์ประกอบสามารถทำงานร่วมกันได้

เราจำเป็นต้องเสนอเหรียญ SOLO เพื่อออกแบบให้ระบบนิเวศมีการนำเสนอส่วนลด รวมถึงการมีส่วนร่วมของชุมชน (การโหวตลงคะแนน) และกองทุนชุมชน ผมแนะนำให้ทุกคนอ่าน white paper อย่างรอบคอบเพื่อทำความเข้าใจว่าสิ่งต่าง ๆ มันทำงานอย่างไร”

Litecoin

นาย Charlie Lee ผู้ก่อตั้ง LiteCoin ได้ปฏิเสธความคิดที่ว่ามูลนิธิ LiteCoin นั้นมีปัญหาการขาดแคลนเงิน

โดย Lee กล่าวว่ามูลนิธิ LiteCoin ไม่มีทางล้มละลายและยังมีเงินสดกว่า 200,000 ดอลลาร์อยู่ในมือ บริษัทได้ปล่อยงบการเงินที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบในไตรมาส 2 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเผยให้เห็นว่าปริมาณเงินทุนสำรองเพิ่มขึ้นตามมูลค่าของ Litecoin และมันได้ช่วยชดเชยการดำเนินงานที่ขาดทุนไปกว่า 13,000 ดอลลาร์

ในช่วงแรก Lee ได้บริจาคเงินเกือบ 468,000 ดอลลาร์สหรัฐให้กับมูลนิธิในปี 2017

นอกจากนี้ Lee กล่าวว่าเงินกองทุนของมูลนิธิจะเพิ่มขึ้นหลังจากการประชุมสุดยอด  Litecoin ที่ลาสเวกัสในวันที่ 28 ตุลาคม

ที่มา : dailyhodl.com

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น