<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักวิเคราะห์เผย คำทำนาย Bitcoin ที่ $100,000 เกินจริงมากไป นี่คือระดับราคาที่เป็นไปได้มากกว่า

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อไม่นานมานี้นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดังทั้งสองกล่าวว่า พวกเขาเชื่อว่า Bitcoin กำลังอยู่ในช่วงวัฏจักรขาขึ้นรอบใหม่ แต่การทำนายว่าราคาของ BTC จะพุ่งสูงแตะระดับ $ 100,000 นั้นอาจมองโลกในแง่ดีมากเกินไป

ในช่วงล่าสุดของคลิปวีดีโอ Trading Bitcoin นาย Tone Vay และ นักเทรดผู้ที่ใช้แนมแฝงว่า Filbfilb ได้มีการถกเถียงกันอย่างถึงพริกถึงขิงเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันของตลาดคริปโตและระดับราคาที่เหมาะสมสำหรับ Bitcoin ในช่วงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

นาย Vays กล่าวว่า BTC จำเป็นต้องปิดราคาเหนือระดับ $ 10,450 เพื่อส่งสัญญาณให้รู้ว่ามันกำลังจะพุ่งขึ้นไปสู่ระดับที่สูงขึ้น โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา Bitcoin ได้เข้าใกล้ระดับตัวเลขนั้นมากถึง 10,444 ดอลลาร์ ก่อนที่ราคาจะลดลงสู่ 9,568 ดอลลาร์ในเวลาต่อมา

ในขณะเดียวกันนาย Filbfilb กล่าวว่าเป้าหมายสำหรับการเปิดตำแหน่ง Long position ของเขานั้นได้ขยับสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเขากำลังมองหาว่าเมื่อใดที่ BTC จะสามารถข้ามผ่านระดับ $ 11,500 ไปได้

พวกเขาทั้งสองคาดหวังอย่างมากว่า Bitcoin จะสามารถปีนขึ้นไปสู่วัฏจักรขาขึ้นรอบใหม่ และพุ่งทะลุระดับราคาตั้งต้นที่พวกเขาทำนายเอาไว้ จากนั้นก็ค่อย ๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปสู่ระดับ $ 100,000 ตามรูปแบบของกราฟพาราโบลา

นาย Filbfilb กล่าวว่า 

“ผมคิดว่า Bitcoin กำลังพยายามอย่างหนักเพื่อไต่ขึ้นไปที่ระดับราคา $ 60,000 ผมคิดว่าที่ระดับ $ 60,000 นั้นจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับ Bitcoin และแน่นอนว่าผมจะเริ่มทำกำไรอย่างจริงจังเมื่อถึงตอนนั้น

ผมคิดว่าคุณพูดถูกในฟิจิสำหรับเรื่องที่คุณบอกว่าผลตอบแทนที่ได้รับจากการ Long position มันคือการเทรดที่อันตราย ดังนั้นการที่ Bitcoin จะพุ่งขึ้นแตะระดับ $ 60,000 ผมคิดว่ามันยังคงเป็นเรื่องที่โง่เล็กน้อยสำหรับช่วงเวลานี้ แต่อย่างไรก็ตามที่ระดับแถว ๆ $ 50,000 ถึง $ 60,000 มันจะเป็นระดับราคาที่สมเหตุสมผลในการทำกำไร”

ส่วนทางด้านของนาย Vays เขาเชื่อว่าระดับราคาที่เหมาะสมสำหรับการทำกำไรนั้นควรจะอยู่ในระดับที่ต่ำลงมาเล็กน้อยที่ประมาณ $ 45,000 

นาย Vays รู้สึกตื่นเต้นอย่างมากสำหรับเหตุการณ์ Bitcoin Halving ที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งมันจะช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงต้นปี 2020 โดยเขากล่าวว่าวอลุ่มการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น รวมถึงสัญญาฟิวเจอร์ที่เพิ่มขึ้นนี้จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่เราควรจับตามอง

ที่มา : dailyhodl

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น