<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Ethereum ขุดบล็อกที่ 10 ล้านขึ้นมาแล้ว เมื่อการอัพเกรด ETH 2.0 เข้ามาเรื่อย ๆ จะเกิดอะไรขึ้นต่อ?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ชุมชนคริปโตนั้นกำลังเฉลิมฉลองความสำเร็จของ Ethereum ที่นักขุดนั้นทำการขุด block ที่ 10 ล้านขึ้นมาได้สำเร็จแล้ว เมื่อการอัพเกรดตัว Ethereum 2.0 นั้นกำลังเข้าใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ

บล็อกเที่ 10 ล้านที่ต้องใช้เวลาถึง 1,740 วันเพื่อขุด

ประวัติศาสตร์ของ Ethereum นั้นเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 5 ปีกว่าที่แล้ว โดยภายในระยะเวลาสั้น ๆ นั้นมันสามารถที่จะสร้าง block บน blockchain ได้ถึง 10 ล้านบล็อก โดยในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้เมื่อสองชั่วโมงที่ผ่านมา บล็อกที่ 10 ล้านของ Ethereum นั้นถูกขุดขึ้นมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อ้างอิงจากข้อมูลของ Etherscan

บริษัทด้านการวิเคราะห์ blockchain ชื่อดัง glassnode ได้ชี้ว่าความสำเร็จดังกล่าวนั้นต้องใช้เวลาถึง 1,740 วันเลยทีเดียว

ก่อนหน้านี้ผู้เชี่ยวชาญชื่อดัง Luit Hollander ได้ออกมาเขียนบน Medium ของเขาว่าบล็อกที่ 10 ล้านนั้นถูกขุดขึ้นมาด้วยแรงขุดบนคอมพิวเตอร์ที่มีมากกว่า 15 zettahashes ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยหากจะกล่าวให้เห็นภาพง่าย ๆ นั้นมันจำเป็นที่จะต้องใช้ การ์ดจอ Geforce 1080 Ti หนึ่งใบกับเวลาอีก 150 ปีเพื่อที่จะทำแบบนั้นได้

ในขณะเดียวกันบน blockchain ของ Bitcoin นั้นได้มีการขุดเหรียญขึ้นมาแล้วมากกว่า 600,000 บล็อกหากนับตั้งแต่วันที่มันเกิดขึ้นมาเมื่อปี 2009 ซึ่งน้อยกว่าของ Ethereum เนื่องจากว่าการตั้งค่าความยากที่ให้เกิด block ใหม่นั้นใช้เวลานานมากกว่า ในขณะที่ block ใหม่บนเครือข่ายของ Ethereum ถูกตั้งค่าไว้ให้เกิด block ใหม่ที่ 10-20 วินาทีเท่านั้น ส่วนของ Bitcoin อยู่ที่ 10 นาที

Ethereum นั้นถูกก่อตั้งเมื่อปี 2015 โดยนาย Vitalik Buterin และสมาชิกคนอื่น ๆ อย่างเช่นนาย Charles Hokinson หรือผู้ก่อตั้ง Cardano โดยแนวคิดที่พวกเขามีตอนนั้นก็คือการสร้างโลกแห่งดิจิทัลที่มีความเป็น decentralized ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ของโลกนี้ ที่สามารถสร้าง smart contract ขึ้นมาได้

แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

เมื่อบล็อกที่ 10 ล้านนั้นถูกขุดขึ้นมาแล้ว ทางชุมชนคริปโตนั้นก็กำลังตั้งหน้าตั้งตารอการพัฒนาใหม่ ๆ ขึ้นมา นั่นก็คือการอัพเกรดไปเป็น Ethereum 2.0 ที่ได้รับชื่อเล่นว่า Serenity โดยการอัพเกรดดังกล่าวนั้นจะถือเป็นการเปลี่ยนโมเดลอัลกอริทึมเป็น proof of work หรือ PoS นั่นเอง

เครือข่ายของ Ethereum นั้นมักจะเกิดปัญหาการแออัดในเครือข่ายบ่อย เมื่อการประมวลผลธุรกรรมในบางครั้งนั้นสามารถที่จะเกิดความล่าช้าได้ หรือไม่ก็ค่าธรรมเนียมมีความแพงหูฉี่มากขึ้น โดย ETH 2.0 นั้นจะช่วยเข้ามาแก้ไขปัญหาในด้านการ scaling นี้อีกด้วย แม้ว่าจะต้องแลกมาด้วยการละทิ้งนักขุดไปก็ตาม

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น