<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักวิเคราะห์เผยถึงสาเหตุที่การรั่วไหลของตลาดตราสารทุนอาจทำให้ราคา Bitcoin พุ่งแตะ $56,000 ได้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ราคา Bitcoin นั้นได้เพิ่มขึ้นมามากกว่า 60% ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดเมื่อวานนี้ราคาของมันนั้นได้พุ่งไปแตะระดับ 9,700 ดอลลาร์ หลังจากที่เคยร่วงลงไปที่ระดับ 8,800 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้

การกลับมาของราคา Bitcoin นั้นดูเหมือนว่าจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนหลังจากที่พวกเขานั้นต้องผิดหวังกับการ halving ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยอย่างน้อยมันก็ทำให้พวกเขารู้สึกอุ่นใจได้ว่ามันจะไม่มีการเทขาย Bitcoin เกิดขึ้นแม้ว่านักขุดนั้นจะเริ่มถอดปลั๊กเครื่องขุดของพวกเขาไปบ้างแล้ว

ในตอนนี้กราฟราคาของ Bitcoin เผยให้เห็นว่าราคานั้นกำลังวิ่งเข้าหาระดับ 10,000 ดอลลาร์เข้าไปทุกที หากว่ามันสามารถที่จะถูกผลักให้ไปสูงได้มากกว่านี้ เราอาจจะได้เห็นการพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงของราคาในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม หากมันไม่เกิดขึ้นแล้วล่ะก็ เราอาจจะได้เห็นการร่วงลงของราคาในช่วงสัปดาห์นี้ นอกจากนี้เทรนด์การทุบราคาทุกวันจันทร์นั้นก็มีมาให้เราเห็นกันได้พักใหญ่ ๆ แล้ว และในช่วงต้นสัปดาห์หน้านั้นก็ควรที่จะจับตามองตลาดให้ดี

หากลองมองในด้านขาลงของตลาดนั้น แนวรับจุดแรกนั้นจะอยู่ที่ราว 9,400 ดอลลาร์ ถัดมาด้วย 9,200 และ 9,000 ตามลำดับ ซึ่งแนวรับเหล่านี้นั้นถือเป็นแนวรับที่ดูค่อนข้างจะแข็งแกร่งอย่างมาก

การรั่วไหลของตลาดตราสารทุน

นักวิเคราะห์รายหนึ่งนามว่า Eric Wall ได้ออกมาแสดงความเห็นที่ค่อนข้างน่าสนใจอย่างยิ่ง โดยเขาได้ออกมาชี้ว่าศักยภาพของตลาด Bitcoin ในช่วงที่ผ่านมาที่สวนทางกับของตลาดตราสารทุน (Equities) นั้นอาจจะส่งผลทำให้ส่งผลด้านบวกต่อตลาด Bitcoin ได้

นาย Wall อธิบายว่าตลาด Bitcoin นั้นมีมูลค่าอยู่ที่ 1.8 แสนดอลลาร์ ซึ่งยังน้อยกว่าของตลาดตราสารทุนที่อยู่ที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์อยู่มาก แต่หากว่าเม็ดเงินจากตลาดตราสารทุนนั้นรั่วไหลมาที่ Bitcoin ได้นั้น อาจส่งผลทำให้ราคาของมันนั้นพุ่งแตะ 56,000 ดอลลาร์ได้อย่างง่ายดาย

ด้วยการเข้ามาในตลาดของนักลงทุนในตำนานอย่างนาย Paul Tudor Jones ที่เชื่อว่า Bitcoin นั้นถือเป็นสินทรัพย์เพื่อการ hedge หรือกระจายความเสี่ยงที่ดีที่สุดนั้น การทำนายของนาย Wall ดูเหมือนว่าจะดูค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียว นอกจากนี้นาย Jones ยังเชื่อว่า Bitcoin นั้นถือเป็นสินทรัพย์ที่ช่วยกระจายความเสี่ยงต่อเงินดอลลาร์อีกด้วย พร้อมเสริมว่า Wall Street นั้นอาจจะได้เห็นการเกิดใหม่ของตัวเก็บมูลค่าตัวใหม่นี้ด้วยก็เป็นได้

วิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นอยู่อย่างหนักในขณะนี้ และความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยนั้นก็มีมากขึ้นทุกที ทำให้นักลงทุนนั้นเริ่มที่จะถอยออกห่างจากตราสารทุนเรื่อย ๆ เพื่อที่จะมองหาสินทรัพย์ใหม่ ๆ เพื่อการลงทุน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ bitcoin ที่กำลังโดดเด่นอยู่ในขณะนี้ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงนั้นก็อาจจะส่งผลกระทบต่อราคาของมันอย่างรุนแรงก็เป็นได้ แต่อย่างไรก็ตาม อนาคตนั้นเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน ซึ่งเราก็ต้องรอดูกันต่อไป