<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เหรียญ Stablecoin ชื่อดัง USDC ประกาศย้ายบล็อกเชนจาก Ethereum ไปใช้ Algorand แทน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ดูเหมือนว่าเหรียญ stablecoin คู่แข่ง USDT นามว่า USDC หนังกำลังจะเลิกใช้บล็อกเชนของ Ethereum ไปใช้ของตัวอื่นแทน

บริษัท Centre ที่ถูกก่อตั้งขึ้นมาระหว่าง Coinbase และ Circle โดยเป็นผู้จัดการเหรียญ USDC ได้ออกมาประกาศตัว framework สำหรับ multi-chain เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา โดย Algorand จะเป็นบล็อกเชนที่ไม่ได้ทำงานอยู่บน Ethereum ตัวแรกที่จะให้การรองรับเหรียญ USDC จะเป็น stablecoin ตัวแรกที่ได้ขึ้นไปอยู่บนบล็อกเชนดังกล่าว

โดยในการประกาศดังกล่าวนั้นทาง Centre ได้ชี้ว่าสาเหตุที่ Algorand ถูกเลือกให้เป็นบล็อกเชนหลักของ USDC นั้นเป็นเพราะเหรียญดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อรองรับการทำธุรกรรมที่มีจำนวนมาก นอกจากนี้ทาง Circle จะทำการติดตั้งระบบ bridge ที่จะทำให้ผู้ใช้งานเหรียญ USDC แบบเวอร์ชั่น ERC-20 นำไปแลกเป็นเหรียญ USDC เวอร์ชัน Algorand 

เหรียญ USDC นั้นได้กลายเป็น stablecoin ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในระบบ ecosystem ของ Ethereum มันถูกใช้เพื่อช่วยทำให้โปรโตคอลของ Maker มีความเสถียรมากขึ้นหลังจากที่ราคาในตลาดคริปโตได้ร่วงลงมาอย่างรุนแรงเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้มันยังถูกใช้เพื่อจ่ายภาษีบนเกาะ Bermuda  ได้อีกด้วย 

“เมื่อสถาบันการเงินและบริษัทใหญ่ๆต้องการสร้าง Application ด้านการเงินที่มีความเป็น decentralized มากขึ้น พวกเขาจำเป็นที่จะต้องมีระบบ infrastructure และ compliant ที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังต้องถูกกฎหมายและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางอีกด้วย” กล่าวโดย COO  ของ Algorand Foundation นาย Fangfang Chen

“พวกเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะทำการจับมือกับ Circle เพื่อให้บริการสถาบันการเงินด้วยเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับ USDC รวมถึง Solution ระดับเอ็นเตอร์ไพรส์เพื่อการสร้าง use case  ของจริงอีกด้วย”

อย่างไรก็ตามหลายคนยังมองว่าเหรียญ USDC นั้นมีความเป็น centralized พี่ค่อนข้างสูงแม้ว่ามันจะมีเงินจริงมาค้ำไว้ก็ตาม

เมื่อช่วงเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมาทางเว็บเทรด Coinbase ได้เสนอรางวัลให้กับผู้ใช้งานที่เก็บเหรียญ USDC ไว้บนเว็บด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าการเก็บเงินไว้ในธนาคารทั่วไป แต่ว่าหลังจากนั้น 8 เดือนที่ผ่านมาอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวนั้นได้ถูกหักลดลงไปเกือบ 90%  โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนั้นมีการเตือนผู้ใช้งานเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น ส่งผลทำให้ผู้ใช้งานเหรียญดังกล่าวออกมาแสดงความไม่พอใจอย่างมาก

แม้ว่าพวกเขาจะมีจุดเริ่มต้นที่ไม่ค่อยสวยงามนัก แต่การจับมือกันกับ Algorand นี้อาจจะสามารถนำพาพวกเขาไปสู่การร่วมมือกับบริษัทในวงการอื่นๆอย่างเช่นอสังหาริมทรัพย์, วงการเกม, และ Social Media  ได้ในอนาคต