<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

บริษัทด้านการลงทุนระดับโลก Grayscale ประกาศเทขาย XRP เพื่อนำไปซื้อเหรียญเหล่านี้แทน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

บริษัทด้านการลงทุนระดับโลกที่ ๆ หลาย ๆ คนทราบกันดีว่าเป็นนักลงทุนสถาบันที่ถือ Bitcoin (BTC) มากที่สุดในโลกนั้นได้ออกมาประกาศในวันนี้ว่าพวกเขาได้เทขายเหรียญ XRP ของพวกเขาไปแล้ว เพื่อนำมันไปเพื่อใช้ซื้อ Bitcoin (BTC), Bitcoin Cash (BCH), และ Litecoin (LTC)

การตัดสินในดังกล่าวนั้นจะส่งผลกระทบต่อกองทุน Digital Large Cap Fund ของทาง Grayscale โดยกองทุนดังกล่าวนั้นถือเป็นกองทุนที่เชื่อมต่อกับตลาดคริปโตที่มากที่สุด หากอ้างอิงจากมูลค่าตลาด โดยการเทขาย XRP ของพวกเขานั้นมีขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ทาง Genesis Global Trading ได้ออกมาประกาศว่าพวกเขาจะปิดให้บริการเทรด XRP เนื่องมาจากการฟ้องร้องบริษัท Ripple ของทาง ก.ล.ต. สหรัฐฯ

บริษัท Genesis Global Trading น้้นวางแผนที่จะยุติการให้บริการเทรด XRP ในวันที่ 15 มกราคมที่จะถึงนี้

ก่อนที่จะมีการขาย XRP เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เหรียญดังกล่าวนั้นคิดเป็นสัดส่วนใน Digital Large Cap Fund ของทาง XRP อยู่ที่ราว ๆ 1.46% โดยตอนนี้มันประกอบไปด้วย 81.63% BTC, 15.86% Ether (ETH), 1.08% BCH และ 1.43% LTC โดยแต่ละแชร์นั้นมีค่าเท่ากับ 0.00047489 BTC, 0.00287011 ETH, 0.00047537 BCH และ 0.00167314 LTC

โดยทาง Grayscale ได้ออกมายืนยันการเทขายของพวกเขาผ่านทาง Twitter เมื่อตอนไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี้

พวกเขากล่าวว่า XRP นั้นถูกนำออกจากกองทุนดังกล่าวหลังจากที่มีการรีวิว DLC Fund พร้อมอธิบายว่าตอนนี้ยังไม่มีเหรียญคริปโตตัวอื่น ๆ ที่ผ่านการอนุมัติให้เข้ามาในกองทุนดังกล่าว

ปัจจุบันสินทรัพย์ที่อยู่ในการดูแลของทาง Grayscale นั้นได้พุ่งทะลุ 2 หมื่นล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่านักลงทุนสถาบันนั้นกำลังมีความต้องการในตัว Bitcoin และเหรียญคริปโตอีกมาก โดยเราจะเห็นได้จากเมื่อปีที่ผ่านมาพวกเขาได้แห่ซื้อ BTC ไปเป็นมูลค่ามหาศาล โดยเฉพาะเดือนธันวาคมที่ผ่านมาที่ข้อมูลเผยว่าทาง Grayscale ได้ทำการซื้อ Bitcoin ไปด้วยจำนวนที่มากกว่าเหรียญที่ถูกขุดออกมาได้ถึง 3 เท่า

ส่วนทาง Ripple บริษัทผู้พัฒนาเหรียญขวัญใจชาวไทยอย่าง XRP นั้นก็ได้ออกมากล่าวว่าพวกเขาจะยังคงเดินหน้าสู้คดีให้ถึงที่สุด เพื่อที่จะให้สหรัฐฯนั้นมีกฎหมายด้านคริปโตที่ชัดเจนสำหรับผู้คนในอนาคตให้ได้