<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ราคา Ethereum พุ่งเข้าหา 1,300 ดอลลาร์ ท่ามกลางความต้องการเหรียญที่มากขึ้น

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ราคาของ Ethereum (ETH) นั้นดูเหมือนว่าจะมีการพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยมันได้พุ่งไปเกือบถึง 1,300 ดอลลาร์ ก่อนที่จะมีการลดลงมาอยู่ที่ 1,234 ดอลลาร์อีกครั้งหนึ่ง

กราฟ ETHUSD จาก TradingView เผยให้เห็นว่าราคาของ ETH นั้นได้พุ่งจากระดับ 1,217 ดอลลาร์ของเมื่อวาน พุ่งไปแตะ 1,294 ดอลลาร์เมื่อช่วงกลางดึกของเมื่อวาน ก่อนที่จะมีการร่วลงมาเหลืออยู่แค่ 1,200 ดอลาร์ ซึ่งถือเป็นแนวรับที่แข็งแกร่งไปแล้ว และตอนนี้ราคานั้นได้วิ่งไปที่ 1,230 ดอลลาร์ในขณะนี้

การเพิ่มขึ้นของราคาเหรียญดังกล่าวนั้นดูเหมือนว่าจะมีขึ้นท่ามกลางการขาดแคลนเหรียญ ETH บนเว็บกระดานเทรดคริปโตชั้นนำหลายแห่ง ตามที่ทางสยามบล็อกเชนได้รายงานไปแล้วเมื่อวานนี้ ซึ่งบ่งบอกว่าสถานะของอุปทานนั้นเริ่มที่จะลดน้อยกว่าอุปสงค์แล้ว

โดยเหตุการณ์การลดลงของจำนวน supply ของเหรียญ ETH นั้นมีมาตั้งแต่วันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา โดยอัตราการโอนเหรียญ ETH ออกจากเว็บกระดานเทรดคริปโตนั้นดูเหมือนว่าจะถูกค้นพบครั้งแรกโดยนาย Alex Saunders ที่เริ่มสังเกตเห็นถึงการลดลงของอัตราเหรียญ Ether บนเว็บกระดานเทรดแบบ centralized ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา โดยลดลงจาก 11 ล้านเหลือแค่ 10 ล้านจากในระยะเวลาเพียงแค่ 24 ชั่วโมงเท่านั้น โดยเขาคาดการณ์ว่าเว็บกระดานเทรดคริปโตนั้นจะไม่เหลือ ETH อีกภายในระยะเวลาเพียงแค่ 10 วัน

นาย Saunders นั้นใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อวิเคราะห์ว่าราคาเหรียญ Ether นั้นอาจจะพุ่งไปแตะจุดสูงสุดเป็นประวัตกาลได้ในเร็ว ๆ นี้พร้อมกล่าวว่า

“พวกเรานั้นรู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้น เมื่ออุปทานนั้นไม่เพียงพอต่ออุปสงค์ในตลาด bitcoin ซึ่งมูลค่าของมันนั้นเพิ่มขึ้น 3 เท่าใน 90 วัน”

แม้ว่า Bitcoin นั้นจะพุ่งไปแตะจุดสูงสุดเป็นประวัติกาลที่ระดับ 41,000 ดอลลาร์ไปแล้ว แต่ว่าราคาของ Ethereum นั้นยังไม่ได้ไปถึงจุดดังกล่าว ซึ่งส่งผลทำให้หลาย ๆ คนตั้งคำถามว่ารูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาเหรียญ ETH นั้นจะเป็นเหมือนกับ Bitcoin ในอนาคตหรือไม่

ด้านนาย Simon Dedic หรือผู้บริหารกองทุนคริปโตจาก Moonrock Capital Managing Partner ได้ออกมาแสดงความเห็นก่อนหน้านี้ว่า เมื่อไรก็ตามที่ราคาของ ETH นั้นได้พุ่งทะลุจุดสูงสุดเก่าไปแล้ว เมื่อนั้นราคาของมันก็จะเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าใน 2 สัปดาห์ จนราคานั้นวิ่งไปที่ 3,000 ดอลลาร์เลยทีเดียว เนื่อมาจากการ FOMO ของผู้คน

ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไป