ในการฟ้องร้องครั้งนี้โจทก์ได้กล่าวหาบริษัท Ripple ผู้เป็นจำเลยว่าได้ทำการละเมิดกฏหมายหลักทรัพย์ และข้อกฏหมายคุ้มครองนักลงทุน ของรัฐฟลอริดาประเทศสหรัฐอเมริกา จากการขาย XRP ให้กับนักลงทุนโดยไม่มีข้อบังคับใด ๆ
ในเอกสารยังระบุด้วยว่าบริษัทไม่สามารถชำระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากธุรกิจของบริษัททำให้ต้องขายเหรียญคริปโตดังกล่าวให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในขณะที่ยังสามารถควบคุมอุปทาน และสภาพคล่องของมันได้อีกด้วย
ซึ่งรายได้ของบริษัท Ripple ที่มาจากขายเหรียญ XRP นั้นมีมูลค่าสูงถึง 1 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งบริษัท Ripple ได้พึ่งพารายได้จากการขายเหรียญเหล่านี้เพื่อทำธุรกิจต่อไป
ในการฟ้องร้องครั้งนี้ยังได้ระบุถึง CEO นาย Brad Garlinghouse ด้วยว่าในช่วงเดือนเมษายนปี 2017 จนถึง เดือนธันวาคมปี 2019 นาย Garlinghouse ได้ขายเหรียญ XRP มูลค่ากว่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อม ๆ กับจักชูงราคาตลาดอีกด้วย
ซึ่งการเทขายของนาย Garlinghouse ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ได้มีการหยุดลงชั่วคราวเพราะราคาของ XRP นั้นได้ร่วงลงอย่างรุนแรง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีความพยายามที่จะควบคุมไม่ให้ราคาของ XRP ร่วงลงต่ำเกินไปอีกด้วย
คดีความนี้เป็นรูปแบบเดียวกันกับคดีที่ Ripple เคยถูกฟ้องร้องโดยนาย Bradley Sostack เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2018 โดยคดีนั้นยังไม่ได้มีข้อสรุปเกิดขึ้นตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และภายหลังบริษัท Ripple ยังถูกบริษัทจัดการทรัพย์สินและหลักทรัพย์ Tetragon ฟ้องร้องเมื่อปี 2019 อีกด้วย
ล่าสุดในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาก.ล.ต. สหรัฐฯ ยังได้ฟ้องร้องบริษัท Ripple ข้อหาซื้อขายหลักทรัพย์ที่ไม่ได้มีการจดทะเบียนอีกด้วย
ที่มา: u.today