<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

3 สาเหตุที่ราคา Bitcoin ฟื้นตัวกลับมาแตะระดับ $40,000 ได้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาถือเป็นอีกหนึ่งสัปดาห์ที่แสนสาหัสสำหรับนักลงทุนคริปโต ภายหลังจากการร่วงลงของราคา Bitcoin จากระดับ $50,000 สู่ $29,500 ชนิดที่เรียกได้ว่าต้อง “ปิดโทรศัพท์หนี” แต่นั่นอาจเป็นช่วงเวลาอันดีงามของนักลงทุนอีกหลายคนที่ได้ช้อนซื้อสินค้าในราคาที่พวกเขาต้องการ

อย่างไรก็ตามในเช้าวันนี้ราคา Bitcoin สามารถฟื้นตัวแตะระดับ $40,000 ได้สำเร็จทำให้ตลาดคริปโตเริ่มกลับมาสดใสอีกครั้ง ทาง Siam Blockchain จะพาไปสำรวจ 3 สาเหตุที่ทำให้ราคา Bitcoin ฟื้นตัวกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็วต้อนรับเช้าวันศุกร์ก่อนจะถึงวันหยุดสุดสัปดาห์

Elon Musk ทวีตว่า Tesla ถือ Bitcoin อย่างเหนียวแน่น

โดยในวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมานาย Elon Musk ได้ทวีตบอกใบ้เป็นนัยว่าบริษัท Tesla เขาของนั้นจะถือ Bitcoin อย่างเหนียวแน่น ส่งผลให้ราคา Bitcoin ดีดตัวกลับจากระดับ $29,500 อย่างรวดเร็วและขึ้นไปแตะระดับ $40,000 ในเวลาต่อมา

“Tesla ถืออย่างเหนียวแน่น (Diamond hands)”

ซึ่งคาดการณ์กันว่าการทวีตดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนกลับมามีความเชื่อมั่นกันอีกครั้ง ล่าสุดนาย Elon Musk ยังบอกกับผู้ติดตามในทวิตเตอร์กว่า 50 ล้านคนอีกว่าเขาจะไม่ขายเหรียญ Dogecoin ใด ๆ ทั้งสิ้น ตามที่ทาง Siam Blockchain ได้รายงานไปในเช้าวันนี้

ปัจจุบันบริษัท Tesla ถือครอง Bitcoin ทั้งหมด 48,000 BTC อ้างอิงจาก Bitcointreasuryreserve นับเป็นบริษัทมหาชนอันดับที่ 2 ที่ถือครอง Bitcoin มากที่สุดในโลกเป็นรองเพียงแค่ MicroStrategy ของนาย Michael Saylor เท่านั้น

ส่วนแบ่งมูลค่าตลาด Bitcoin กลับขึ้นมาแตะระดับ 46 อีกครั้ง

มูลค่าตลาด (Market Capitalization) ของ Bitcoin ปัจจุบันอยู่ที่ 7.5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในสัปดาห์นรก ที่ 6.3 แสนล้านดอลลาร์ และค่าส่วนแบ่งมูลค่าตลาดของ Bitcoin (Bitcoin Dominance) กลับขึ้นมาแตะที่ระดับ 46 อีกครั้งในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ ภายหลังร่วงลงไปแตะจุดต่ำสุดที่ 39 ในช่วงเวลาดังกล่าว

เป็นผลมาจากมูลค่าส่วนแบ่งตลาดของ Altcoin ปรับตัวลดลงตามด้วยเช่นกัน สิ่งนี้เป็นแนวโน้มที่ดีต่อราคาของเหรียญพี่ใหญ่อย่าง Bitcoin และยังคงต้องรอติดตามกันต่อว่า Bitcoin Dominance จะสามารถกลับมายืนเหนือระดับ 50 อีกครั้งได้หรือไม่

คลังสหรัฐฯ ประกาศให้รายงานธุรกรรมที่มีมูลค่าเกิน $10,000 ส่งผลดีในระยะยาว

เมื่อเร็ว ๆ นี้กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศให้ธุรกรรมใดก็ตามที่มีมูลค่าเกิน $10,000 ต้องชี้แจงต่อสรรพากร อ้างอิงจาก Bloomberg ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนการแก้ไขกฎหมายภาษีของนาย Joe Biden ประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ทันทีที่มีการประกาศราคา Bitcoin ก็ร่วงลงทันทีกว่า 6% และลงอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์แห่งความหายนะ 

อย่างไรก็ตามการประกาศดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจนมากนักในการเก็บภาษีหรือผู้ที่เสียภาษี อีกทั้งรายงานระบุว่าอาจเริ่มใช้จริงภายในปี 2023 เพื่อให้ทางสถาบันทางการเงินได้เตรียมความพร้อมและรับมือกับการใช้กฎข้อบังคับใหม่

ซึ่งหลายคนคาดการณ์ว่านี่อาจเป็นผลดีต่อตลาดคริปโตเคอร์เรนซีในระยะยาวเนื่องจากจะได้รับการยอมรับจากรัฐบาลทั่วโลกและทำให้ตลาดนั้นแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

ทำให้สถานการณ์เริ่มคลายความกดดันมากขึ้นและราคา Bitcoin เริ่มดีดตัวกลับขึ้นมา ซึ่งต้องติดตามกันต่อว่าการออกกฎหมายของประเทศผู้นำโลกจะส่งผลต่อตลาด Bitcoin อย่างไรในอนาคต