นาย Todd Morley ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตผู้บริหาร Guggenheim กล่าวว่า Ethereum นั้นมี “ยูทิลิตี้ที่เยอะกว่า Bitcoin อย่างมาก”
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับรายการ Bloomberg TV เมื่อช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมา Morley กล่าวว่า Bitcoin เป็นแค่เพียง “สิ่งของ” สำหรับเขา แต่ “Ethereum” มันมียูทิลิตี้ที่สูงกว่ามากจากสัญญา Smart contract”
อุตสาหกรรมใดก็ตามที่ไม่มีกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัลนั้นก็คือ “ธุรกิจที่ตายไปแล้ว” Morley กล่าว
เทคโนโลยี Blockchain กำลังก้าวไปอย่างรวดเร็วในส่วนอื่น ๆ ของโลกตามข้อมูลของ Morley โดยเขากล่าวว่าจำนวนนักพัฒนาแอปบน Ethereum เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา “มันเร็วกว่ากฎของมัวร์มาก ดังนั้นนั่นนี่คือสิ่งที่ทุกคนต้องเร่งปรับตัว”
กฎของมัวร์เป็นข้อสังเกตของวิศวกรชาวอเมริกันกอร์ Gordon Moore ในปี 1965 ที่ระบุไว้ว่าจำนวนทรานซิสเตอร์ในวงจรรวมที่หนาแน่นจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในทุก ๆ สองปี หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งความเร็วและความสามารถของคอมพิวเตอร์จะเพิ่มขึ้นทุก ๆ 2 ถึง 3 ปี
Morley กล่าวต่อว่าการใช้งานฟังก์ชันยูทิลิตี้ของ Ethereum และการเข้าถึงสินทรัพย์ในปริมาณมากนั้น “ยังไม่เกิดขึ้น ดังนั้นเราจึงหวังว่าจะเป็นผู้นำในเรื่องนี้”
Overline.Network
ปัจจุบัน Morley เป็นประธานของโปรเจกต์ด้านบล็อกเชนที่มีชื่อว่า Overline Network เดิมชื่อ Block Collider Overline ซึ่งเป็นโปรโตคอลการทำงานร่วมกันที่ออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อ blockchains เข้าไว้ด้วยกันทำให้ Bitcoin สามารถเชื่อมต่อกับโปรโตคอลทางการเงินแบบกระจายอำนาจ ( DeFi) อื่น ๆ ได้ อ้างอิงข้อมูลตามเว็บไซต์
เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา Overline ได้เปิดตัว decentralized marketplace ที่เรียกกันว่า Interchange ซึ่งเขาอ้างว่ามันสามารถเปิดใช้งานการซื้อขายตามหลักประกันได้ในหลาย ๆ บล็อกเชน โดยไม่ต้องพึ่งพาการ wrapped tokens หรือค่าธรรมเนียม Gas
Overline Network นั้นมีเหรียญของโปรเจกต์อยู่ 2 เหรียญด้วยกันคือ Overline (OL) และ Emblems (EMB)โดย OL นั้นเป็นโทเค็นกำกับดูแลของเครือข่าย ในขณะที่ EMB เป็นโทเค็น ERC-20 ที่มอบให้รางวัลบล็อกแก่นักขุด Overline ที่ทำการ Staking
สำหรับโมเดลธุรกิจของ Overline Network นาย Morley กล่าวว่าโครงการสามารถสร้างผลกำไรให้กับนักลงทุน เนื่องจากการใช้งานของ OL จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ยิ่งไปกว่านั้น ในขณะที่โลกก้าวไปสู่สินทรัพย์ในรูปแบบโทเค็นมากขึ้นสินทรัพย์ดิจิทัลก็อาจมีกรณีการใช้งานเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
นั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ Overline ร่วมกับกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ JDS กำลังสร้าง ‘blockchain tower’ แห่งใหม่ขึ้นในนิวยอร์ก หอคอยแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ 111 West 57th Street รวมถึง “พิพิธภัณฑ์ NFT ที่ใหญ่ที่สุดในโลก” นาย Morley กล่าว
“เราคิดว่า Overline จะเป็นต้นกำเนิดของโปรเจกต์ต่าง ๆ มากมายที่ผู้คนสามารถเป็นเจ้าของได้” Morley กล่าว
นอกจากนี้ Morley ยังพูดถึงเรื่องความผันผวนของตลาดคริปโตในระหว่างการให้สัมภาษณ์ด้วยว่า “มันยังคงเป็นตลาดที่ค่อนข้างเล็กมาก ดังนั้นมันจึงไม่มีสภาพคล่อง” และนั่นก็เป็นเรื่อง “ปกติของตลาดในวัยเยาว์”