<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผู้ก่อตั้ง Cardano กล่าวว่า Bitcoin เป็นคู่แข่งที่แย่ที่สุดของตน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับนาย Lex Fridman ในตอนล่าสุดของรายการ Podcast ผู้ก่อตั้งโปรเจกต์ Cardona นาย Charles Hoskinson กล่าวว่าปัญหาหลัก ๆ ของ Bitcoin นั่นคือการพัฒนาที่ล่าช้า

“ปัญหาเดียวของ Bitcoin คือมันช้ามาก เหมือนกับการเขียนโปรแกรมเมนเฟรมในอดีต และเหตุผลเดียวที่มันยังคงอยู่รอดได้ก็เพราะมันมีการลงทุนมากมายที่คอยช่วยพยุงมันเอาไว้”

เขากล่าว Bitcoin มีความสามารถในการเขียนโปรแกรมในระดับต่ำ มีความเร็วในการทำธุรกรรมที่ค่อนข้างล่าช้า และเขามองว่าเหรียญคริปโตเบอร์หนึ่งของโลกเป็นคู่แข่งที่แย่ที่สุดของตน :

“Bitcoin เป็นคู่แข่งที่แย่ที่สุดของผม แม้มันจะมีชื่อแบรนด์ที่แข็งแกร่ง มีการอนุมัติในด้านกฎระเบียบ แต่มันไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงระบบเดิมที่มีอยู่ได้”

ในขณะที่นักพัฒนา Bitcoin กำลังพัฒนาโซลูชั่นเลเยอร์ 2 เพื่อเข้ามาช่วยในเรื่องการปรับขนาดของเครือข่าย แต่ Hoskinson กลับมองว่าสิ่งเหล่านี้ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นการรวมศูนย์อำนาจและมีระบบความปลอดภัยที่เปราะบางมาก ซึ่งข้อเสียตรงนี้อาจทำให้ cryptocurrency ตัวอื่น ๆ เข้ามาแทนที่ Bitcoin ได้ 

Ethereum มีแนวโน้มที่จะชนะในศึกครั้งนี้

Hoskinson ยังได้มีถกเถียงกับผู้เข้าร่วมประชุมจำนวนมากในงาน Bitcoin 2021 ที่เพิ่งจัดขึ้นในไมอามี่เมื่อไม่นานมานี้ สำหรับ Hoskinson แล้วเขามองว่า Bitcoin Maximalist ส่วนใหญ่นั้นไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าสกุลเงินดิจิทัลมีไว้ทำอะไร ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังขาดความมุ่งมั่นที่จะแนะนำเหรียญคริปโตตัวอื่น ๆ ให้กับนักลงทุนหน้าใหม่อีกด้วย

แม้ว่า Hoskinson จะไม่เห็นด้วยกับความเชื่อของ Bitcoin Maximalists แต่เขามองว่า การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในโปรโตคอลของ Bitcoin อย่างเช่น การปรับปรุงอัลกอริธึม Proof of work ของ blockchain นั้นจะทำให้ Bitcoin มีการแข่งขันที่สูงขึ้น

ในขณะเดียวกัน Hoskinson ก็หันไปยกย่อง Ethereum แม้ว่าในอดีตเขาจะเคยมีปัญหากับตัวผู้ก่อตั้งอย่างนาย Vitalik Buterin แต่เขาคิดว่าชุมชน Ethereum นั้นเปิดกว้างให้กับการพัฒนาและการปรับปรุงเครือข่ายมากกว่าชุมชนของ Bitcoin

นอกจากนี้ในระหว่างให้สัมภาษณ์กับนาย Fridman ผู้ก่อตั้ง Cardano ยังกล่าวเสริมด้วยว่า :

“ถ้าหากผมเลือกเดิมพันได้แค่สองระบบระหว่าง Bitcoin หรือ ethereum ผมสามารถบอกคุณได้เลยว่า 9 ใน 10 ครั้ง Ethereum จะเป็นฝ่ายชนะอย่างแน่นอน”