<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เจ้ามือ Ethereum ระดับท็อป ๆ ของโลกซื้อ ETH เพิ่มอีก 13.9% เข้าพอร์ต

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

กระเป๋าเงินดิจิทัลที่ถือครอง Ethereum อันดับต้น ๆ ได้เพิ่มจำนวน ETH อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนสิงหาคมจนมาถึงปัจจุบันแม้ว่าราคาจะเข้าใกล้จุดสูงสุดประวัติการณ์ในเดือนพฤษภาคมแล้วก็ตาม

Santiment ผู้ให้บริการข้อมูลบนเครือข่ายบล็อกเชนได้ทวีตว่ากระเป๋าเงินดิจิทัล Ethereum ที่ถือครอง ETH ตั้งแต่ 1-10 ล้านเหรียญได้ซื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมากในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นกว่า 13.9% และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าราคา ETH จะพุ่งสูงไปอยู่ในโซน 4,200 ดอลลาร์แล้วก็ตาม

ETH ในกระเป๋าเงินมากกว่ากระดานเทรด 5 เท่า

ตามทวีต Santiment ก่อนหน้านี้ในเดือนตุลาคมอัตราส่วนของเหรียญในกระเป๋าเงินกับกระดานเทรดในขณะนี้ถือว่าเป็น 5:1 โดยถือได้ว่าวาฬถือครอง ETH มากกว่าในกระดานเทรดกว่า 5 เท่า

ทั้งนี้การถือครอง ETH ในอดีตจนถึงตอนนี้รวม 22.91 ล้าน ETH เทียบกับในกระดานเทรดคริปโตที่มีเพียง 4.6 ล้าน ETH นอกจากนี้ในเดือนกรกฎาคมกระเป๋าเงิน 10 อันดับแรกของ Ethereum ได้รับ ETH จำนวนมาก และในตอนนั้นพวกเขาถือครองเหรียญกว่า 20.58% ของเหรียญทั้งหมด

ก่อนหน้านี้อุปทานการแลกเปลี่ยน ETH ลดลงอย่างมาก เนื่องจากนักลงทุนได้ถอน ETH ไปยังกระเป๋าเงินเพื่อการจัดเก็บระยะยาว นี่อาจเป็นสาเหตุหลักประการหนึ่งที่ทำให้ราคา Ethereum เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา

Ethereum กลับคืนสู่ ATH 

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ETH สามารถทำสถิติราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 4,362 ดอลลาร์ ตั้งแต่นั้นมา ETH ก็ลดลงสองครั้งสู่ระดับต่ำสุดที่ 1,780 ดอลลาร์ (ในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม) และในช่วงต้นเดือนสิงหาคม ทะลุระดับ 3,000 ดอลลาร์หลังจากการอัปเกรด EIP-1559 (หรือที่รู้จักในชื่อ London hardfork) เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม

เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว Ethereum ฟื้นตัวที่เส้น 4,000 ดอลลาร์ และในวันพุธ ราคาพุ่งขึ้นสู่ราคา 4,239 ดอลลาร์ หลังจากที่ Bitcoin พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 66,930 ดอลลาร์

อย่างไรก็ตามวันพฤหัสบดี เวลา 18.29 น. ตามเวลาประเทศไทย ETH ได้ทำลายราคาสูงสุดเดิมที่ 4,362 ดอลลาร์เป็น 4,375 ดอลลาร์ก่อนที่ราคาจะร่วงสู่ 4,200 ดอลลาร์ในขณะที่เขียน

นอกจากการอัปเกรด EIP-1559 แล้ว กลไกการเผาเหรียญ Ethereum ยังทำให้ ETH มีอุปทานน้อยลงและเกิดภาวะเงินฝืดมากขึ้น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้ราคาของมันสูงขึ้น โดยณ วันที่ 11 ตุลาคมมีรายงานว่ามากกว่า 500,000 ETH ถูกเผาทิ้งในช่วง 30 วันที่ผ่านมา ซึ่งถือได้ว่าค่าธรรมเนียม Ethereum มูลค่าประมาณ 824 ล้านดอลลาร์ถูกเผา