<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักลงทุนรายย่อยแห่ซื้อเหรียญ Shiba Inu มากกว่า Bitcoin แล้ว

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นักลงทุนรายย่อยมักจะมีบทบาทสำคัญในตลาดเหรียญคริปโต แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะยังไม่มาถึง Bitcoin ในตอนนี้ หากอ้างอิงจากกราฟการค้นหาของ Google ที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขากำลังเทใจไปให้ Shiba Inu มากกว่าเหรียญคริปโตเบอร์หนึ่งของโลก

การขายปลีกไม่ได้อยู่ที่นี่สำหรับ Bitcoin

นักลงทุนรายย่อยและ Bitcoin มักจะเป็นของคู่กันเสมอ โดยหากย้อนกลับไปในปี 2017 เมื่อ BTC ทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ที่ 20,000 ดอลลาร์ นักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่นั้นเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการขึ้นขของราคาครั้งนั้น

สิ่งที่คล้ายกันเกิดขึ้นสามและสี่ปีต่อมา เมื่อ BTC แตะจุดสูงสุดในเดือนเมษายน คำค้นหาโดย Google ที่เป็นตัวชี้วัดความสนในของนักลงทุนรายย่อยต่อตลาดคริปโตก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ตอนนี้ดูแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ตามที่มีรายงานเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน จำนวนคำค้นหาบนเสิร์ชเอ็นจิ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลกคำว่า “bitcoin” หรือ “ซื้อ bitcoin” ยังคงค่อนข้างต่ำ ทว่าราคาของมันยังคงทำสถิติสูงสุดใหม่ตลอดกาลที่ 67,000 ดอลลาร์หลังจากนั้นไม่นาน การค้นหาเพิ่มขึ้นแทบจะไม่แม้แต่สถิติใหม่

ในทำนองเดียวกัน สถิติคำค้นหาคำว่า “ซื้อ bitcoin” ยังคงค่อนข้างต่ำ จำนวนการค้นหาของ Google ดังกล่าวเพิ่มขึ้นเมื่อต้นปีนี้ท่ามกลางช่วงพีคครั้งก่อน แต่แทบจะไม่เพิ่มขึ้นเลยในช่วงก่อนและหลังการเพิ่มขึ้นของราคา BTC ที่ $67,000

แต่พวกเขามาเพื่อ Shiba Inu

ข้อมูล Google Trends เพิ่มเติมแสดงให้เห็นว่านักลงทุนรายย่อยยังคงอยู่ในตลาดคริปโตเคอเรนซี แต่พวกเขาไม่ได้ให้ความสนใจใน Bitcoin, Ethereum, Ripple หรือ Binance Coin พวกเขาลืมแม้กระทั่งความรู้สึกในปี 2021 ก่อนหน้านี้ อย่าง Dogecoin และ SafeMoon

ตอนนี้พวกเขากำลังมองหาเหรียญคู่แข่ง Dogecoin อย่าง Shiba Inu แทน

กราฟคำค้นหาด้านบนเผยให้เห็นว่าคำค้นหา Shiba Inu ล่าสุดนั้นได้พุ่งทำจุดสูงสุดใหม่ไปแล้ว ทะลุของเก่าที่เคยทำไว้เมื่อต้นปีนี้

การทำ ATH ของคำค้นหา Shiba Inu นั้นเกิดขึ้นพร้อม ๆ กับตอนที่ราคาของมันกำลังพุ่งขึ้นสูงอย่างรุนแรงพอดี บ่งบอกว่ามีผู้ที่ให้ความสนใจในเจ้าเหรียญดังกล่าวอย่างมาก

เหรียญ SHIB นั้นมีอัตราผลตอบแทนที่มากกว่า 100,000,000% (คุณเข้าใจถูกแล้ว ร้อยล้านเปอร์เซ็นต์) นับตั้งแต่ต้นปี

โอกาสที่นักลงทุนรายย่อยจะหลั่งไหลเข้ามาเพราะหวังอยากรวยทางลัดนั้นจึงมากขึ้นตามนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ชุมชนคริปโตเคอเรนซี (cryptocurrency) ได้เห็นแนวโน้มที่คล้ายคลึงกันมากมายสำหรับความบูมของกระแสเกิดขึ้นแล้วไป ซึ่งหลายๆ ครั้งส่งผลให้เกิดความเจ็บปวดสำหรับผู้ที่มางานปาร์ตี้สาย ซึ่งนั่นไม่ได้หมายความว่าจะมีทุกคนที่กำไรเสมอไป

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรมุ่งเน้นไปที่การทำวิจัยที่เหมาะสมเพื่อค้นหาเหตุผลพื้นฐานว่าทำไมพวกเขาต้องการซื้อเหรียญนั้น ๆ แทนที่จะไล่ตามกระแส