ปัจจุบันเครื่องหมายการค้าที่เกี่ยวข้องกับ NFT ในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 1,263 รายการ หรือคิดเป็นการเติบโตกว่า 421 เท่านับตั้งแต่ 3 รายการในปี 2020 ทั้งนี้เดือนที่มีสถิติการยื่นเครื่องหมายการค้าสูงสุดนั้นเป็นเดือนธันวาคมปี 2021 ที่ 407 รายการ
NFT ถูกนำไปใช้โดยบริษัทและบุคคลจำนวนมากในช่วงปีที่ผ่านมาเนื่องจากความต้องการที่ต้องการตอบโต้กับลูกค้ามากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะตั้งเป้าหมายที่จะได้รับประโยชน์จกาคุณค่าที่นำเสนอจากผลงานศิลปะดิจิทัล หน่วยงานส่วนใหญ่จึงให้ความสำคัญกับเครื่องหมายการค้าเพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์ของตนเองมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ Michael Kondoudis ได้จัดทำข้อมูลเครื่องหมายการค้า NFT โดยพบว่าการยื่นขอเครื่องหมายนั้นเร่งขึ้นในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นกว่า 552.17% ระหว่างเดือนสิงหาคม 2021 ถึง มกราคม 2022 โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของสหรัฐอเมริกา (USPTO) ได้รับการยื่นฟ้องสูงสุดในเดือนมกราคมที่ 450 รายการ ซึ่งหมายความว่ามีบริษัทเข้ามายื่นขอเครื่องหมายกว่า 15 รายการในแต่ละวัน
ทำไมถึงเร่งจดเครื่องหมายการค้า NFT
แอปพลิเคชันเครื่องหมายการค้าปรากฎขึ้นเมื่อ NFT เป็นที่น่าดึงดูดสำหรับลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยการยื่นคำขอนี้แสดงให้เห็นถึงความต้องการของบริษัทและบุคคลในการเข้าสู่พื้นที่บล็อกเชนส่งต่อแบรนด์ให้เข้าสู่อุตสาหกรรมดังกล่าว
ความจำเป็นในการยื่นเครื่องหมายการค้านั้นมีความจำเป็นจากปัจจัยหลายประการ ซึ่งรวมถึงเป้าหมายในการกำจัดของปลอมที่ซ้ำกันที่เพิ่มสูงขึ้น ตัวอย่างเช่น OpenSea ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายของ NFT เปิดเผยว่าของสะสมที่ทำขึ้นเองจำนวนมากบนแพลตฟอร์มนั้นเป็นงานลอกเลียนแบบ ของสะสมปลอม หรือสแปม
โดยทั่วไปเครื่องหมายการค้าจะช่วยให้แบรนด์ส่วนใหญ่สร้างรายได้จากทรัพย์สินทางปัญญาแม้ไม่มีสินค้าที่จับต้องได้ โดยรวมแล้ว หากแบรนด์ต่าง ๆ ล้มเหลวในการป้องกันการฉ้อโกง ก็อาจมีผลกระทบยาวนานเนื่องจากผู้บริโภคอาจรู้สึกว่าถูกฉ้อโกงหากสินค้าลอกเลียนแบบเข้าสู่ตลาด
ท่ามกลางความเร่งรีบในการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า แบรนด์ที่เป็นที่ยอมรับแล้วบางแบรนด์ก็กำลังเป็นผู้นำ โดยพยายามขยายการเข้าถึงสู่พื้นที่ ตัวอย่างเช่น แบรนด์ชั้นนำอย่าง Victoria Secret ได้ยื่นคำขอเครื่องหมายการค้า 4 รายการสำหรับของสะสมดิจิทัลและสื่อที่พัฒนาผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน ควบคู่ไปกับเสื้อผ้าและสื่อออนไลน์เพื่อใช้ในโลกเสมือนจริง
อีกทั้งร้านฟาสต์ฟู้ดยักษ์ใหญ่อย่าง McDonald’s (NYSE: MCD ) ก็ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า 12 รายการสำหรับร้านอาหารเสมือนจริงใน metaverse รวมถึงตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ได้ยื่นเครื่องหมายการค้าใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์เข้ารหัสลับหลายรายการ รวมถึง NFT
แน่นอนว่า Metaverse เสนอโอกาสทางการตลาดสำหรับบริษัทต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นเนื่องจากผู้บริโภคสามารถมีส่วนร่วมกับแบรนด์ต่าง ๆ ในรูปแบบอวาตาร์ในแบบเรียลไทม์ได้อย่างง่ายดาย ด้วยเหตุนี้แบรนด์ต่าง ๆ จึงมีโอกาสที่จะเข้าใจลูกค้าและช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน
โอกาสมาพร้อมความเสี่ยง
การเข้ามาของบริษัทใน NFT ที่เพิ่มขึ้นหมายความว่าทนายความด้านเครื่องหมายการค้ากำลังได้รับโอกาสในการช่วยเหลือบริษัทต่าง ๆ ในการนำทางการใช้ NFT ที่เกิดขึ้นใหม่ในระดับสากล
แม้ว่าแบรนด์ต่าง ๆ กำลังมองหาเพื่อให้ได้มุมมองทางกฎหมายที่ถูกต้อง แต่ก็ยังมีคำถามสำคัญเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น มีการถกเถียงกันว่าโทเคนบางตัวละเมิดกฎหมายเครื่องหมายการค้าหรือไม่ นอกจากนี้ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการลงโทษในกรณีที่มีการทำซ้ำอย่างผิดกฎหมายของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ NFT ที่มีเครื่องหมายการค้าอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามแม้ว่าหน่วยงานส่วนใหญ่จะร้อนขึ้นสู่ตลาด NFT แต่ก็ยังมีความเสี่ยงมากมายที่จะต้องพิจารณา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะต้องคำนึงถึงกฎระเบียบและการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่สำคัญ ดังนั้นบริษัทที่เข้าร่วมอุตสาหกรรมนี้จำเป็นจะคิดถึงความเสี่ยงด้านลบที่อาจเกิดขึ้นจากการเชื่อมโยงกับเทคโนโลยีที่น่าตื่นเต้นนี้