สมาคมด้านการเงินของจีน 3 สมาคม ประกอบด้วย สมาคมธนาคารจีน, สมาคมหลักทรัพย์จีน และสมาคมการเงินออนไลน์จีน ได้ร่วมกันประกาศกฎเกณฑ์ใหม่ เพื่อมุ่งเน้นกำกับดูแลอุตสาหกรรม NFT
โดยเนื้อหาหลัก ๆ สามารถสรุปใจความสำคัญได้ว่า แม้ NFT จะแสดงคุณค่าที่เป็นไปได้บางประการในการเสริมสร้างรูปแบบเศรษฐกิจดิจิทัลและส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ แต่ในขณะเดียวกันสมาคมเล็งเห็นว่ายังคงมีความเสี่ยงที่ซ่อนเร้นอยู่ เช่น การเก็งกำไร การฟอกเงิน และ กิจกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมาย
ดังนั้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน ปกป้องสิทธิ์ที่ถูกต้องตามกฎหมายและผลประโยชน์ของผู้บริโภค ทางสมาคมธนาคารจีน, สมาคมหลักทรัพย์จีน และสมาคมการเงินจึงได้ร่วมกันเรียกร้องให้ออกกฎเกณฑ์ดังต่อไปนี้ :
- ห้ามนำ NFT มาใช้เป็นผลิตภัณฑ์ด้านการเงิน หลักทรัพย์ พันธบัตร เงินกู้ ประกัน มาผูกกับ NFT หรือสินทรัพย์ทางการเงินอื่นๆ
- ห้ามออก NFT แบ่งเป็นชิ้น ๆ หรือออกเป็นจำนวนมาก เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการระดมเหรียญ ICO ที่แฝงมาในรูปแบบของ NFT
- ห้ามเปิดให้บริการเป็นตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยน NFT
- ห้ามตั้งราคา NFT เป็นสกุลเงินคริปโต เช่น Bitcoin, Ethereum
- ห้ามสถาบันการเงินสนับสนุนทางการเงินเพื่อให้คนอื่นไปลงทุนใน NFT
- แพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องควรเพิ่มมาตรการตรวจสอบตัวตน (KYC) และจัดเก็บบันทึกการทำธุรกรรมของลูกค้าเพื่อป้องกันฟอกเงิน (AML)
ทั้งนี้ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีหลายแห่งได้แสดงจุดยืนในการยอมรับกฏเกณฑ์ใหม่ของหน่วยงานกำกับดูแลของจีนแล้ว โดยบริษัทในเครือ Ant Group อย่าง Bilibili, Tencent และ Alibaba ได้มีการสร้างเครือข่ายบล็อกเชนที่ได้รับอนุญาตจากทางภาครัฐ ซึ่งช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถสร้างและขายผลงาน NFT ของพวกเขาได้ แต่จะถูกจำกัดให้เฉพาะผู้เข้าร่วมที่กำหนดและแยกตัวออกจากเครือข่ายของ Ethereum
นอกจากนี้การทำธุรกรรมยังจะสามารถทำการแลกเปลี่ยนได้เฉพาะกับสกุลเงินหยวนจีนเท่านั้นและบริษัทจะไม่อนุญาตให้นำ NFT ไปขายต่อในตลาดรอง เช่นแพลตฟอร์มของ OpenSea และตลาด NFT ชั้นนำอื่น ๆ
ที่มา : techcrunch