<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผู้ก่อตั้ง DeFiance Capital ชี้ ! เกาหลีเหนืออาจเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีบริษัท Crypto 

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Arthur Cheong ผู้ก่อตั้ง DeFiance Capital ได้ออกมาเตือนผ่าน Twitter ว่าแฮ็กเกอร์ที่ทำงานให้เกาหลีเหนือได้คิดค้นวิธีในการกำหนดเป้าหมายการโจมตีไปที่บริษัท crypto

โดยเขากล่าวว่า “ว่าแฮ็กเกอร์เหล่านี้กำลังใช้ความรู้วิศวกรรมรูปแบบใหม่ เพื่อคิดค้นรูปแบบการโจมตีที่ซับซ้อนทำให้ “ไม่สามารถป้องกันได้” โดย Cheong อ้างว่าข้อมูลนี้นำมาจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์

จากข้อมูลของ Cheong การโจมตีที่เกิดขึ้นนั้นมาจาก BlueNorOff ซึ่งเป็น องค์กรอาชญากรทางไซเบอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากเกาหลีเหนือ โดยเขากล่าวว่าแฮ็กเกอร์กลุ่มนี้นั้นมีไหวพริบเป็นอย่างมากและไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์นี้สามารถทำอะไรได้บ้าง 

 สำหรับสาเหตุที่นาย Cheong ตั้งใจที่เผยถึงสาเหตุถึงสิ่งที่ได้รับรู้ต่อสาธารณะก็เพื่อต้องการให้อุตสาหกรรมคริปโตตื่นตัวในเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น

“เป็นไปได้ที่พวกแฮ็กเกอร์จะเปลี่ยนเครื่องมือและรูปแบบการโจมตีในอนาคต โดยเฉพาะเมื่อวิธีการโจมตีในปัจจุบันเริ่มมีประสิทธิภาพน้อยลง เช่น แพลตฟอร์ม DeFi ที่ถูกโจมตี โดยโทรจัน และการโจมตี Wallet ที่ค้นพบเมื่อเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตามหากสามารถแฮ็กได้สำเร็จแล้ว มีความเป็นไปได้ว่า เกาหลีเหนือจะทุ่มเททรัพยากรให้กับกลุ่มแฮ็กเกอร์นี้มากขึ้นเพื่อเพิ่มความรุนแรงให้กับการโจมตี”

สำหรับ Cheong เขาเคยตกเป็นเหยื่อของแฮ็กเกอร์เมื่อเดือนที่แล้วจากการใช้อีเมล “spear-phishing” แฮ็กเกอร์สามารถใช้มัลแวร์ในอุปกรณ์ของเขาและดึง seed phrase ของกระเป๋าเงินร้อนของเขา นั่นทำให้เขาต้องสูญเสีย NFTs มูลค่า 1.7 ล้านดอลลาร์จากการโดนแฮ็กในครั้งนี้

ซึ่งตัวเขาเองได้บอกว่า เขามีหลักฐานที่ได้รับจากบริษัทรักษาความปลอดภัยในโลกไซเบอร์และได้ยืนยันว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์ BlueNorOff คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการแฮ็กในครั้งนี้ ซึ่ง จากทวิตเตอร์ ของ Cheong เขายังได้แนะนำให้ทุกคนหันมาใช้ HardwareWallet และยังเตือนด้วยว่า แฮ็กเกอร์ได้พยายามเข้าบริษัทที่ทำงานด้านคริปโต

เกาหลีเหนืออยู่ในการเฝ้าระวังของสหรัฐฯ หรือไม่

กระทรวงการคลังสหรัฐกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่แฮ็กเกอร์ชาวเกาหลีเหนือนั้นจะอยู่เบื้องหลังการแฮ็กของ Ronin เป็นมูลค่ากว่า 6 ร้อยล้านดอลลาร์ ที่พึ่งผ่านไปไม่นานนัก รัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงยึดในคำมั่นสัญญาว่าจะให้รางวัล 5 ล้านดอลลาร์สำหรับข้อมูลที่สามารถช่วยขัดขวางอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากเกาหลีเหนือ

อย่างไรก็ตาม ศาลสหรัฐตัดสินจำคุก Virgil Griffiths อดีตผู้พัฒนา Ethereum เป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากให้ข้อมูลทางเทคนิคเกี่ยวกับวิธีการที่เกาหลีเหนือจะใช้เพื่อสามารถหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรโดยใช้ คริปโต