<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

พลเมืองชาวยุโรป 2 รายถูกตั้งข้อหาละเมิดกฏหมายการคว่ำบาตรหลังพยายามช่วยเกาหลีเหนือ ปี 2019

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ศาลแขวงสหรัฐได้ตั้งข้อหากับพลเมืองยุโรปสองรายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดประชุมเกี่ยวกับเทคโนโลยี Blockchain และ คริปโต ในประเทศเกาหลีเหนือ ซึ่งการประชุมดังกล่าวนั้นเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐในปี 2019

ตามรายงานของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ คำฟ้องที่ยื่นต่อศาลอ้างว่า Alejandro Cao De Benos พลเมืองชาวสเปน และ Christopher Emms พลเมืองชาวอังกฤษ ได้ร่วมกันจัดการประชุมเกี่ยวกับเทคโนโลยี Blockchain และ คริปโต ในเมืองเปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อเกาหลีเหนือ

ทั้งคู่ถูกกล่าวหาว่าร่วมมือกับ Virgil Griffith อดีตผู้พัฒนา Ethereum ว่าให้คำแนะนำประเทศเกาหลีเหนือ สามารถใช้เทคโนโลยี Blockchain และ คริปโต เพื่อฟอกเงินและหลบเลี่ยงการคว่ำบาตร  อีกทั้ง ทั้งสามคนยังคงให้บริการเกี่ยวกับคริปโตแก่ประเทศที่ถูกคว่ำบาตร โดยพยายามช่วยพวกเขาสร้างโครงสร้างพื้นฐานและสกุลเงินดิจิทัล

Griffith เป็นที่รู้จักกันดีในวงการคริปโต บนเครือข่าย Ethereum ในช่วงปีแรก ๆ เขาถูกจับโดยสำนักงานสืบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (FBI) ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2019 เนื่องจากเขามีการเกี่ยวข้องกับการประชุมที่ประเทศเกาหลีเหนือ และเดือนกันยายน ปี 2020 เขาก็ได้ยอมรับสารภาพ ทำให้เขาถูกตั้งข้อละเมิดพระราชบัญญัติอำนาจเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศ (IEEPA) เมื่อวันที่ 12 เมษายน เขาถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 63 เดือน และปรับเงินเป็นจำนวน 100,000 ดอลลาร์

สำหรับข้อหาในปัจจุบัน คำฟ้องที่ถูกยื่นต่อศาล ได้กล่าวหาว่า Cao De Benos และ Emms เป็นคนที่เลือกให้ Griffith ขึ้นไปพูดในการประชุมและเตรียมการเดินทางให้ไปยังประเทศเกาหลีเหนือ ในปี 2019 โดยมีการอ้างว่า Cao De Benos เป็นคนประสานงานกับรัฐบาลเกาหลีเพื่อให้ Griffith เข้าร่วมการประชุม ซึ่งถือว่าเป็นการละเมิดมาตรการการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี

FBI ได้ออกคำเตือนอย่างเด็ดขาดต่อบุคคลหรือบริษัทใดๆ ที่คิดจะหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อรัฐบาลต่างประเทศ

 Bradley S. Benavides ผู้ช่วยผู้อำนวยการรักษาการ จากแผนกต่อต้านข่าวกรองของ FBI กล่าวว่า

“บรรดาผู้ที่คิดจะหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อรัฐบาลต่างประเทศควรรู้ไว้ว่า FBI และพันธมิตรจะสอบสวนกรณีเหล่านี้อย่างจริงจัง”

คำฟ้องนี้มีขึ้นในช่วงเวลาหลังจากสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ (OFAC) เพิ่งประกาศว่าจะกำหนดเป้าหมายไปยังหน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้องในการพยายามหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรที่กำหนดโดยสหรัฐอเมริกาและพันธมิตรระหว่างประเทศในรัสเซีย

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ประกาศว่าได้แต่งตั้ง BitRiver AG ผู้ให้บริการขุดคริปโตในรัสเซีย และบริษัทในเครือหลายแห่ง เป็นบริษัทที่อำนวยความสะดวกในการหลบเลี่ยงการคว่ำบาตร

“สหรัฐฯ มุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่นใจว่าไม่มีทรัพย์สินที่มีความซับซ้อนใด ๆ  ถูกใช้เป็นกลไกสำหรับระบอบการปกครองของปูตินเพื่อชดเชยผลกระทบจากการคว่ำบาตร”

เมื่อวันศุกร์ OFAC ประกาศว่าได้ลงโทษกระเป๋าเงินของเครือข่ายของ Ethereum ทั้งหมดสามใบ ที่ถูกกล่าวหาว่าเชื่อมโยงกับการโจรกรรมที่อาจเกี่ยวข้องกับเกาหลีเหนือ มูลค่ากว่า 600 ล้านดอลลาร์ จากการแฮก เครือข่าย Ronin Network ของเกม NFT Axie Infinity ในเดือนมีนาคม