<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum บอกใบ้ว่า “The Merge” อาจประสบปัญหาล่าช้าในการอัปเกรด

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

แม้ว่าเมื่อไม่นานมานี้นาย Preston Van Loon นักพัฒนาหลักของเครือข่าย Ethereum จะออกมากล่าวให้ความหวังกับทุกคนในการประชุม Permissionless ว่าการอัปเกรด The Merge น่าจะมาถึงในเดือนสิงหาคม หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน

แต่ทว่าล่าสุด Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethererm กล่าวเน้นย้ำในงานประชุม Ethereum ว่า The Merge ที่มีกำหนดเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคมปีนั้น เป็นความเป็นไปได้ที่จะประสบปัญหาในเรื่องของความล่าช้า

“แน่นอนว่ามีความเสี่ยงต่อปัญหามีอยู่เสมอ ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดความล่าช้าขึ้น  ดังนั้นเดือนกันยายนก็เป็นไปได้ และตุลาคมก็เป็นไปได้เช่นกัน”

นักวิจัย Ethereum ยังได้แถลงการณ์เกี่ยวกับโอกาสเป็นไปได้ที่ The Merge จะประสบปัญหาความล่าช้า Justin Drake กล่าวว่า ทีมนักวิจัยกำลังตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่า The Merge นั้นจะเป็นไปตามไทม์ไลน์ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงนี้อยู่ในอันดับต้น ๆ ของรายการจัดลำดับความสำคัญ

เขายังเน้นย้ำไปที่ “ความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นก่อน Difficulty bomb ในเดือนสิงหาคม”

“Difficulty Bomb” หมายถึงโค้ดโปรแกรมบน Ethereum Blockchain ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนไปใช้ฉันทามติ Proof of Stake โดยทำให้นักขุด Proof of work (PoW) ดำเนินการได้ยากมากขึ้น หลังจากการอัพเกรด The Merge

อะไรจะเกิดขึ้นหลังจากการอัพเกรด The Merge ?

The Merge ถือเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่ครั้งแรกของ Ethereum สิ่งนี้เกิดขึ้นหลังจากการอัปเกรด London Hardfork โดยหลังจากเสร็จสิ้นการอัปเกรด The Merge, Ethereum ก็จะถูกกำหนดให้เข้าแถวต่อคิวรอ The Surge, The Verge, The Purge และ The Splurge เพื่อการอัปเกรดในเฟสต่อไป

 ‘the surge’ คือ การทำให้ Ethereum มีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้นทั้งแบนด์วิดธ์และปริมาณการใช้งาน โดยเฉพาะใน zk-rollups”

เมื่อการอัปเกรด ขั้นตอน ‘the merge’ และ ‘the surge’ ผ่านพ้นไปและมีการใช้งาน shard แบบสมบูรณ์ เฟสถัดไป “the verge” จะช่วยให้ผู้ใช้งานมีจำนวนมากขึ้น สามารถรันโหนดได้และโดยพื้นฐานแล้ว “เป็นการทำให้เป็นประชาธิปไตยในการเข้าถึงผู้เข้าร่วมในวงกว้างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้สำหรับทุกคน ที่ต้องการตรวจสอบความถูกต้องของบล็อกเชน” Buterin กล่าว หลังจากขั้นตอน “the verge” แล้วจะเป็นขั้นตอน “the purge” และ “the splurge”

The Purge มีหน้าที่นำการเพิ่มแทร็ก EVM ให้เรียกใช้งานได้ง่ายขึ้น พร้อมกับการลบข้อมูลในอดีตและหนี้ทางเทคนิค  (technical debt) หลังจากนั้น The Surge ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายของโร้ดแมพก็จะรับหน้าที่ดูแลในเรื่อง “เบ็ดเตล็ด” และ “ส่วนเสริมที่สำคัญ” บนเครือข่าย

ที่มา : bitcoinist