<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

จำนวน address กระเป๋า Ethereum ที่ถูกใช้งานบ่อยลดลงอย่างมาก แม้ราคาฟื้นตัว

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หลังจากตลาด crypto ได้เกิดการเทขายอย่างรุนแรงเมื่อช่วงที่ผ่านมานี้ Ethereum (ETH) ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเหรียญที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด หากดูจากราคาของ ETH ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมามันเป็นเรื่องยากที่จะมองเห็นภาพ ETH จะกลับมาอยู่เหนือแนวรับ $1,000 ได้

ในช่วงที่เกิดการเทขายอย่างหนักราคาของ ETH ได้ลดลงต่ำสุดที่ $895 แต่ก็ฟื้นตัวเกือบจะในทันที ในขณะเดียวกันตลาด crypto ทั้งหมดก็มีการฟื้นตัวในสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากที่เหรียญส่วนใหญ่โดนแรงกระแทกจากช่วง crypto winter

พ้นช่วงหมีดุแล้วหรือ?

ETH ได้มีการฟื้นตัวได้อย่างน่าทึ่งในช่วง 4 วันที่ผ่านมา นักลงทุนเจ็บปวดอย่างมากหลังจากตลาดแดงเป็นสีเลือดครั้งล่าสุดที่นำไปสู่การขาดทุนมหาศาลแก่นักลงทุนโดยทั่วถึง

อย่างไรก็ตามเหรียญ ETH นั้นเริ่มได้รับโมเมนตัมในการเทรดรายวันกลับมา โดยปัจจุบันราคาของ ETH เพิ่มขึ้นมา 0.96% อยู่ที่ $1,240 ในขณะที่เขียน นอกจากนี้เรายังได้เห็นการฟื้นตัวขึ้นมาประมาณ 21% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยตัว shadowf ork ล่าสุดได้สร้างความฮือฮาให้กับนักพัฒนาแถมยังเพิ่มความสนใจอย่างมากให้ ETH 2.0 ด้วย

Glassnode ได้รายงานความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ในทวีตล่าสุด ตามข้อมูลจากทวีต มูลค่ารวมในสัญญาเงินฝาก ETH 2.0 เพิ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 12,954,309 ETH ณ วันที่ 25 มิถุนายน

ซึ่งหมายความว่า 11.5% ของอุปทานทั้งหมดของ Ethereum ที่ 121,297,250.87 ถูกเก็บไว้ใน ETH 2.0 ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 25,000 ล้านดอลลาร์ ณ ราคาปัจจุบัน

หากถามว่านี่ดูเหมือนว่าเป็นเวลาที่ดีที่จะเป็นนักลงทุนใน ETH แล้วใช่หรือไม่? บางทีมันก็อาจจะเป็นแบบนั้น

แต่เครือข่ายของ Ethereum ยังคงมีการแชร์ให้เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งทำให้โวลุมในการเทรดลดลงอย่างค่อนข้างเอาแน่เอานอนไม่ได้โดยปัจจุบันลดลง 7.5% โวลุมเครือข่ายเริ่มสะท้อนให้เห็นถึงความแออัดที่ส่งผลต่อเสถียรภาพบล็อกบน Ethereum

address ที่เปิดใช้งานอยู่บน Ethereum ก็ลดลงอย่างมาก อันที่จริง จำนวน address ที่เปิดใช้งานอยู่ (MA 7 วัน) แตะระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือนที่ 28,149 เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน

นอกจากนี้ จำนวนธุรกรรม ETH ยังแตะระดับต่ำสุดในรอบ 20 เดือนที่ 40,691 ระดับต่ำสุดในเครือข่ายดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดคริปโตพังลงมาเมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี้ ซึ่งเป็นช่วงที่การล้างพอร์ตนักลงทุนเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมาก

คำถามก็คือนักลงทุนจะยังอดทนบนเครือข่ายที่แออัดและค่าธรรมเนียมแพงเช่นนี้อยู่หรือจะแห่กันไปที่เครือข่ายที่ปรับขนาดได้ตัวอื่น ๆ ที่ขนานนามให้มันว่า Ethereum killer หรือไม่?