<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

5 เหตุผลที่ราคา Bitcoin อาจมีจุดต่ำสุดอยู่ที่ราคา $10,000

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เราคงหลีกหนีไม่พ้นกับช่วงเวลาอันเลวร้าย ที่หมายถึงว่าตลาดอยู่ในช่วงขาลงอย่างต่อเนื่องถึงแม้ล่าสุดราคา Bitcoin จะกลับมาฟื้นตัวยืนเหนือราคา $20,000 ได้แล้วก็ตาม

แต่ด้วยความที่ Bitcoin เป็นเหรียญที่ได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนหน้าใหม่หน้าเก่า ก็พร้อมทื่จะเทรด Bitcoin ด้วยความเชื่อมั่น ถึงแม้ว่าราคาจะร่วงลดลง

หลายคนบอกตัวเองและคนอื่น ๆ ว่า ต้องรอราคา Bitcoin เดี๋ยวก็กลับมา แต่ยอมรับเถอะว่า ถึงจะพูดบอกแบบนั้น ก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่าราคา Bitcoin จะกลับมาเมื่อไร หรือที่สำคัญก็คือ เราไม่รู้เลยว่าราคาที่ต่ำที่สุดของราคา Bitcoin อยู่ที่ระดับราคาเท่าไรกันแน่

ตลาดขาลงในรอบนี้มีกูรูหลายท่านได้เคยออกมาบอกแล้วว่ าราคาของ Bitcoin จะตกไปอยู่ในช่วงระดับราคาเท่าไร โดยก่อนหน้านี้มีกูรูมากกว่าหนึ่งรายที่คาดการณ์ว่า ราคา Bitcoin จะอยู่ร่วงลงมาถึง $25,000 $20,000 $17,000 $14,000 และล่าสุดก็มีความเป็นไปได้ที่ราคา bitcoin อาจจะร่วงไปแตะระดับราคาที่ $10,000 

และเพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติมว่าราคาจะร่วงไปถึงระดับไหน ในวันนี้ทางสยามบล็อกเชนจะพาไปดู 5 เหตุผลที่เชื่อกันว่าราคา bitcoin อาจจะร่วงอย่างรุนแรงจนไปแตะระดับราคาที่ $10,000  

1. การเปรียบเทียบราคา Bitcoin กับราคาในอดีต

จากการรายงานล่าสุดของบริษัทวิจัยคริปโต Delphi Digita มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าตลาดยังมาไม่ถึงจุดต่ำสุด

“เราจำเป็นต้องมองความเป็นจริงว่าจุดต่ำสุดของตลาดยังมาไม่ถึง”

เพราะหากนับตั้งแต่ที่ราคาของ Bitcoin สูงสุดในเดือนพฤศจิกายน เปรียบเทียบกับการการร่วงลงของราคากับจุดสูงสุดของตลาดในปี 2017 บ่งบอกถึงความเป็นไปได้ที่ราคา bitcoin จะลดลงได้อีกในระยะสั้น

2. แนวรับในช่วงระดับราค $14,000-$16,000

ในช่วงตลาดหมีครั้งก่อนนั้น ราคาของ BTC ลดลงประมาณ 85% ตามรายงานของ Delphi Digital ระบุว่า หากประวัติศาสตร์ซ้ำรอย นั่นหมายความว่า “ราคาอาจร่วงต่ำกว่า $10,000 และขาดทุนเพิ่มเติมอีก 50% จากระดับราคาในปัจจุบัน”

ด้าน Delphi Digital ได้เตือนเอาไว้ว่า “หากแนวรับที่ $14,000–$16,000 เอาไม่อยู่ ราคาก็อาจจะร่วงทะลุลงไปจนถึง $10,000”

3. ราคา Oversold เส้นในจากในอดีตยังสามารถใช้ได้หรือไม่

สำหรับนักเทรดที่มองหาจุดต่ำสุดในตลาดปัจจุบัน ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า “จุดต่ำสุดของตลาดหลักก่อนหน้านั้นใกล้เคียงกับเงื่อนไขของ oversold”

ตามที่แสดงในกราฟรายสัปดาห์ด้านล่าง ดัชนี RSI ราย 14 สัปดาห์ของ BTC ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า RSI ลดลงต่ำกว่าเลข 30 เป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์ โดยสองครั้งก่อนหน้านั้นก็ใกล้ถึงจุดต่ำสุดของตลาด

ในขณะที่บางคนอาจใช้สิ่งนี้เป็นตัวบอกว่า ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่จะกลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้ง ขณะเดียวกันหลายคนมองว่าสิ่งนี้เนี่ยแหละอาจทำให้ราคา BTC ต้องใช้นานหลายเดือนก่อนที่จะมีการกลบัตัวหรืออาจร่วงลดลงต่อ  ทางด้าน Delphi Digital ได้ออกมาเตือนสำหรับผู้ที่คาดว่ากราฟจะฟื้นตัวเป็นกราฟแบบ “V-shape” ว่าให้สังเกต “ในช่วงขาลงทั้งสองกรณีก่อนหน้านี้ BTC มีการซื้อขายในลักษณะ Sidewayเป็นเวลาหลายเดือนก่อนที่จะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในที่สุด”

นอกจากนี้มุมมองของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย (SMA) 200 TF สัปดาห์ยังทำให้เกิดคำถามว่า ระดับแนวเส้นที่เกิดในอดีตจะยังสามารถใช้ได้หรือไม่ได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม Bitcoin ได้ร่วงทะลุต่ำกว่าเส้น SMA 200 TF สัปดาห์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีนาคม 2020 และในช่วงตลาดหมีครั้งก่อนราคา BTC มีการซื้อขายต่ำกว่าระดับนี้เพียงไม่กี่สัปดาห์ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะที่ราคาจะลงไปเจอจุดต่ำสุดเร็ว ๆ นี้

4. ความสิ้นหวัง

ในความเป็นจริงตลาดคริปโตตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีการเคลื่อนไหวอะไรมาก หลายคนอาจบอกว่าราคาเริ่มฟื้นวตัวแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ฟื้วตัวอย่างแท้จริง ราคาของ btc ยังคงไม่ผ่านแนวต้านระดับ $22,000 ซึ่งเป็นคาดหวังที่นักเทรดรอให้เกิดขึ้น  และสำหรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ อาจเป็นไปได้ที่จะมีการเป็นการทุบของราคาอย่างรุนแรงจนทำให้ราคาร่วงลงไปแตะที่ระดับ $10,000 หรือ น้อยกว่านั้น ก่อนที่จะ มีสัญญาณบ่งบอกถึงการสิ้นสุดตลาดหมีอันโหดร้ายและหลังจากนั้นก็จะเข้าสู่ยุคอันรุ่งเรื่องของตลาดคริปโตอีกครั้ง

ถึงแม้ในช่วงปี 2020 ตลาดคริปโตจะอยู่ในช่วงสิ้นหวังอย่างหนักเพราะราคาลดลงอย่างมากเพราะการคระบาดของ Covid-19 แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่สิ้นหวังเท่ากับในช่วงปี 2018 โดยบริษัทวิจัยคริปโตอย่าง Delphi Digital กล่าวไว้ว่า

“เราอาจจำเป็นต้องเห็นความเจ็บปวดอีกครั้ง ก่อนที่ความรู้สึกจะบอกเราว่า เราได้มาถึงจุดต่ำสุดแล้ว”

5. เงินเฟ้อ และ อัตราดอกเบี้ย

ตลาดคริปโตนั้นเริ่มเป็นขาลงชัดเจนตั้งแต่ปลายปี 2021 เพราะราคาได้ค่อย ๆ ร่วงลงต้อนรับช่วงปีใหม่และตรุษจีน แต่ทว่าสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการที่จะเป็นแรงกระตุ้นทำให้เกิดช่วงขาลงของราคา btc หรือราคาของคริปโตเหรียญอื่น ๆ ก็คงจะไม่พ้นอัตราเงินเฟ้อที่หลีกเลี่ยงไม่ได้มาพร้อมกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น จาก เฟด นั่นเอง

อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นมักจะตามมาด้วยการปรับฐานราคาของตลาดคริปโต และแน่นอนว่าสินทรัพย์อื่น ๆ อย่างเช่นตลาดหุ้น ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน และเนื่องจากเฟดตั้งใจที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย จนกว่าภาวะเงินเฟ้อจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นนั่นเอง

ด้านตัวชี้วัดสุดท้ายที่ชี้ให้เห็นว่า เหตุการณ์ครั้งสุดท้ายที่จำเป็นต้องเกิดขึ้นคือเปอร์เซ็นต์ของอุปทานกำไรของ BTC ซึ่งได้แตะระดับต่ำสุดที่ระดับ 40% ในช่วงตลาดหมีครั้งก่อน

ตัวชี้วัดนี้ปัจจุบันอยู่ที่ 54.9% ตามข้อมูลจาก Glassnode ซึ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับข้อสังเกตที่ว่าตลาดยังคงเดินทางมาไม่ถึงจุดต่ำสุดที่แท้จริงของตลาดหมีรอบนี้

สรุป

ถ้านับเอาจากรายงานแล้วก็เป็นไปได้ที่ราคาอาจจะหลุด $14,000 ซึ่งราคาที่หลายกูรูคาดการณ์เอาไว้ในตอนนี้ ก็มีความเป็นไปได้นั้นจะทะลุลงไปถึง $10,000 เลยด้วยซ้ำ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ได้มีคนออกมาบอกว่าช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ซึ่งสิ่งนี้มีความเป็นไปได้ที่จะส่งผลกระทบกับตลาดคริปโตอย่างแน่นอน

และสำหรับนักเทรดเดอร์ทุกท่านที่ยังคงมั่นใจและเชื่อมั่น bitcoin มาอย่างยาวนาน หากราคาในตลาดรอบนี้ถึงจุดต่ำสุดแล้ว ราคาก็น่าจะกลับมาพุ่งอย่างรุนแรง อย่างเช่นเหตุการณ์ในอดีตอย่างแน่นอน