<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ทิศทางตลาดคริปโตไทยจะเป็นอย่างไร ? หลังอดีตนายกทักษิณ ชินวัตร กลับไทยในรอบ 17 ปี

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566 อดีตนายกทักษิณ ชินวัตร ได้เดินทางกลับประเทศไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี หลังจากถูกรัฐประหารเมื่อปี พ.ศ. 2549 การเดินทางกลับของนายทักษิณในครั้งนี้ได้สร้างความตื่นเต้นให้กับคนไทยเป็นอย่างมาก ไม่เว้นแม้แต่นักลงทุนคริปโตชาวไทย เนื่องจากนายทักษิณเคยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคริปโตในเชิงบวกอยู่หลายครั้ง

ในปี พ.ศ. 2560 ทักษิณเคยกล่าวไว้ว่า “คริปโตเคอร์เรนซีเป็นอนาคตของเงิน” พร้อมทั้งสนับสนุนให้รัฐบาลไทยยอมรับคริปโตเคอร์เรนซีเป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย

ต่อมาในปี พ.ศ. 2561 ทักษิณได้ออกมากล่าวอีกครั้งว่า “คริปโตสามารถช่วยแก้ปัญหาเงินเฟ้อและปัญหาหนี้สินของประเทศไทยได้”

จากมุมมองทั้งสอง การเดินทางกลับของนายทักษิณในครั้งนี้ คาดว่าจะสามารถกระตุ้นให้ตลาดคริปโตไทยเติบโตขึ้นได้ เนื่องจากนายทักษิณมีฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นในประเทศไทย นอกจากนี้เขามีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจและการเงินเป็นอย่างดีอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ตลาดคริปโตไทยยังคงมีความเสี่ยงอยู่หลายประการ เช่น ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ ความเสี่ยงด้านเทคโนโลยี รวมไปถึงความเสี่ยงด้านราคา ดังนั้นถ้าหากรัฐบาลไทยออกกฎระเบียบที่เอื้อต่อคริปโต ในขณะที่ได้รับการสนับสนุนจากนายทักษิณ ตลาดคริปโตไทยอาจเติบโตขึ้นได้เป็นอย่างมาก 

แต่ถ้าหากรัฐบาลไทยออกกฎระเบียบที่ไม่เป็นมิตรกับคริปโต หรือถ้าหากตลาดคริปโตเต็มไปด้วยความผันผวนอย่างหนัก หรือเกิดเหตุวิกฤตครั้งสำคัญขึ้นในตลาดโลก คาดว่าตลาดคริปโตไทยอาจจะชะลอตัวลง แม้ว่านายทักษิณจะกลับมาแล้วก็ตาม

นโยบายด้านคริปโตของรัฐบาลไทย

ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกประกาศเตือนประชาชนเกี่ยวกับความเสี่ยงของคริปโต โดยธปท.ระบุว่า “คริปโตเคอร์เรนซีเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่มีสินทรัพย์อ้างอิง และไม่มีตัวกลางควบคุม ทำให้ราคาผันผวนสูง และอาจสูญเสียเงินได้ทั้งหมด”

ต่อมาในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2566 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ก็ได้ออกประกาศให้บริษัทหลักทรัพย์และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน “ห้ามเสนอขายหรือเสนอซื้อหลักทรัพย์อ้างอิงคริปโตเคอร์เรนซี” เนื่องจากก.ล.ต. ยังไม่มั่นใจในความมั่นคงของคริปโต

โอกาสของตลาดคริปโตไทย

ประเทศไทยมีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอยู่ไม่น้อย อีกทั้งคนไทยยังให้ความสนใจกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เป็นอย่างมาก ประกอบกับมีระบบเศรษฐกิจที่ค่อนข้างมั่นคง ดังนั้นตลาดไทยจึงถือเป็นหนึ่งในตลาดที่มีศักยภาพสำหรับการพัฒนาคริปโตเพื่อการชำระเงินและการทำธุรกรรมทางการเงิน

ปัจจัยเสี่ยงของตลาดคริปโตไทย

คริปโตเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ยังไม่ได้รับการยอมรับจากรัฐบาลไทย จึงถือเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง นอกจากนี้ คริปโตยังเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง ดังนั้นนักลงทุนจึงควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนลงทุน

อนาคตของตลาดคริปโตไทย

แม้ราคา Bitcoin จะปรับตัวลงอย่างหนักในช่วงนี้ แต่โครงสร้างของตลาดในปัจจุบันยังเป็นขาขึ้น ดังนั้นคาดว่าตลาดคริปโตไทยจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต แม้ว่าจะมีปัจจัยเสี่ยงบางประการก็ตาม

สุดท้ายแล้ว คำตอบสำหรับคำถามที่ว่าทิศทางตลาดคริปโตไทยจะเป็นอย่างไรนั้น อาจขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ อย่างไรก็ดี การเดินทางกลับของนายทักษิณ ชินวัตร คาดว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สามารถกระตุ้นให้ตลาดคริปโตไทยเติบโตดีขึ้นได้ในอนาคต

บทความนี้จัดทำขึ้นโดยใช้ข้อมูลจาก Bard ซึ่งเป็น Generative AI ที่ได้รับการฝึกฝนจากทีมพัฒนาของบริษัท Google คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้