<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ย้อนรอยตลาดคริปโตปี 2018: บทเรียนราคาแพงที่นักลงทุนไม่มีวันลืม

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ตลาดสกุลเงินดิจิทัลได้ปรับฐานลดลงอย่างกะทันหัน โดยราคา Bitcoin (BTC) ได้ร่วงลงอย่างหนักจนแตะระดับต่ำสุดของวันที่ 24,901 ดอลลาร์ ซึ่งสาเหตุหนึ่งที่ส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องมาจากการที่ตลาดคริปโตมีการตอบสนองมากเกินไปในช่วงสัปดาห์ที่เต็มไปด้วยข่าวและเหตุการณ์สำคัญ ๆ

อย่างไรก็ตาม ความตื่นตระหนกของตลาดในครั้งนี้ ถือว่าเทียบไม่ได้เลยกับเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2018 ซึ่งถือเป็นปีที่ตลาดคริปโตตกต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมีสาเหตุหลักมาจากความตื่นตระหนกของนักลงทุน

ในขณะนั้น ราคา Bitcoin ที่เคยพุ่งทะยานขึ้นไปถึง 19,726 ดอลลาร์ในวันที่ 17 ธันวาคม 2017 กลับร่วงลงอย่างหนักจนแตะระดับต่ำสุดที่ 3,056 ดอลลาร์ต่อเหรียญในวันที่ 15 ธันวาคม 2018 ซึ่งถือเป็นราคาที่ร่วงลงมากว่า 84.50%

เหรียญคริปโตอันดับสองตามมูลค่าตลาดอย่าง Ethereum (ETH) กลับเจอสถานการณ์ที่เลวร้ายยิ่งกว่า โดยก่อนหน้านั้นราคา Ethereum เคยพุ่งสูงถึง 1,420 ดอลลาร์ในวันที่ 19 ธันวาคม 2017 แต่ในปีต่อมา ราคากลับร่วงลงอย่างหนักจนแตะระดับต่ำสุดที่ 79 ดอลลาร์ในวันที่ 15 ธันวาคม 2018 ซึ่งคิดเป็นการปรับฐานลดลงกว่า 94.38%

นอกจากนี้ เหรียญคริปโตตัวอื่น ๆ ในตลาดก็ร่วงลงอย่างรุนแรงไม่ต่างกัน เช่น 

  • Binance Coin (  BNB) จาก $25.13 เหลือ $4.07 (-83.80%)
  • XRP (XRP) จาก $3.33 เหลือ $0.28 (-91.59%)
  • Litecoin (LTC) จาก $303.66 เหลือ $22.61 (-92.55%)
  • Dogecoin (DOGE) จาก $0.0188 เหลือ $0.0020 (-89.36%)
  • EOS (EOS) จาก $23.03 เหลือ $1.45 (-93.70%)
  • Cardano (ADA) จาก $1.31 เหลือ $0.02 (-98.47%)
  • Bitcoin Cash (BCH) จาก $2954.07 เหลือ $83.80 (-97.16%)
  • Zcash (ZEC) จาก $902.79 เหลือ $48.53 (-94.62%)

ทั้งนี้สถานการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลให้มูลค่าตลาดคริปโตลดลงจาก 8.29 แสนล้านดอลลาร์ในวันที่ 1 มกราคม 2018 จนเหลือเพียง 1.25 แสนล้านดอลลาร์ในวันที่ 31 ธันวาคม 2018 ซึ่งคิดเป็นตัวเลขที่ลดลงมามากกว่า 85%

แน่นอนว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาเหรียญคริปโตร่วงลงอย่างหนักในปี 2018 นั้น มาจากความตื่นตระหนกของนักลงทุนดังที่ได้กล่าวไปแล้วในข้างต้น แต่ในขณะเดียวกัน ตลาดหมีครั้งใหญ่ในปี 2018 ยังมีสาเหตุมาจากปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ไม่เป็นใจอีกด้วย

ความตื่นตระหนกของนักลงทุน เกิดจากการที่ราคาเหรียญคริปโตพุ่งสูงขึ้นอย่างรุนแรงในปี 2017 ทำให้นักลงทุนจำนวนมากเข้ามาเก็งกำไรโดยไม่ศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ ดังนั้นเมื่อราคาเริ่มร่วงลง นักลงทุนเหล่านี้จึงพากันเทขายเหรียญอย่างรุนแรง

ในด้านของปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ไม่เป็นใจนั้น ประกอบไปด้วยภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว นโยบายอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวลต่ออนาคตของเศรษฐกิจโลก และหันมาลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลดลงของราคาเหรียญคริปโตในปี 2018 ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนที่สนใจการลงทุนคริปโตในเวลาต่อมา เนื่องจากราคาเหรียญคริปโตที่ลดลงอย่างมาก ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อเหรียญคริปโตได้ในราคาถูก จนมีนักลงทุนรายใหม่ ๆ เข้ามาในตลาดมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยปูทางไปสู่ตลาดกระทิงครั้งใหญ่ในปี 2021

คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

ที่มา: facebook