<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

สื่อรัฐจีน เตือนถึงความเสี่ยงของคริปโตท่ามกลางราคา Bitcoin ที่พุ่งทะยาน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

สื่อของรัฐบาลจีนเตือนนักลงทุนเกี่ยวกับการลงทุนในคริปโต เมื่อวันจันทร์ (4 มีนาคม 2567) ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่ราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้น แตะระดับ 64,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในรอบ 2 ปี

หนังสือพิมพ์ Economic Daily ซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลจีน ชี้แจงเมื่อวันอาทิตย์ว่า ราคา Bitcoin ที่ฟื้นตัวขึ้น ไม่ได้หมายความว่า ความเสี่ยงพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลนี้จะหมดไป

หนังสือพิมพ์ดังกล่าวยังระบุว่า “นักลงทุนควรระมัดระวังความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin และผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเชื่อมโยงกับคริปโตเคอร์เรนซี”

หนังสือพิมพ์อ้างถึงทนายความชาวปักกิ่ง Xiao Sa ซึ่งกล่าวถึง การอนุมัติกองทุน Bitcoin Spot ETFs ล่าสุดในสหรัฐอเมริกา  ทนายความผู้นี้ชี้ว่า การอนุมัติครั้งนี้ส่งผลต่อการลดอุปสรรคในการเข้าสู่ตลาดสำหรับนักลงทุนต่างชาติ และกระตุ้นกิจกรรมการซื้อขายในตลาดคริปโต

Xiao Sa เน้นย้ำว่า แม้จะมีการอนุมัติกองทุน Bitcoin Spot ETFs ในสหรัฐฯ แต่บริษัทที่เป็นตัวแทนจำหน่ายกองทุนเหล่านั้นในต่างประเทศ ไม่สามารถขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin ให้กับประชาชนชาวจีนได้ นอกจากนี้ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ ยังถูกห้ามมิให้ซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับคริปโตโดยตรง ผ่านเครื่องมือทางการเงินใด ๆ

บทความนี้ยังอ้างถึง Zhao Wei นักวิจัยอาวุโสของ OKX ซึ่งเน้นย้ำถึงข้อกังวลอื่น ๆ ในตลาด crypto ซึ่งรวมถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาคที่เพิ่มขึ้น เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันในอุตสาหกรรม และนโยบายการกำกับดูแลที่ไม่ชัดเจน

ความกังวลเกี่ยวกับ Crypto อย่างต่อเนื่องของจีน

คำเตือนดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อราคา Bitcoin พุ่งขึ้น 50% ในปีนี้ โดยพุ่งสูงขึ้นมากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากปริมาณการซื้อขายของกองทุน Bitcoin ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Bitcoin กลายเป็นประเด็นร้อนบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ของจีน เช่น เว็บไซต์ไมโครบล็อก Weibo

สื่อของรัฐบาลจีนได้พยายามเตือนอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับความเสี่ยง จากการเข้าไปเกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซี โดยอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับการไหลออกของเงินทุน และภาวะไม่มั่นคงทางการเงิน 

ในเดือนกันยายน 2021 รัฐบาลจีนได้ดำเนินขั้นตอนสำคัญในการห้ามใช้สกุลเงินดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานต่าง ๆ 10 แห่ง พวกเขาประกาศว่า กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ crypto ต่าง ๆ ผิดกฎหมาย โดยจัดหมวดหมู่เป็นกิจกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมาย การเคลื่อนไหวครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อลดการใช้และการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลภายในประเทศ

แม้ว่ารัฐบาลจะปราบปรามกิจกรรมเหล่านี้ภายในประเทศ แต่ก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้บุคคลครอบครองสินทรัพย์ดิจิทัลเช่น Bitcoin หรือ Ethereum โดยสิ้นเชิง

ความสำเร็จของ Binance ในประเทศจีนแม้จะมีการแบน Crypto

การดำเนินการล่าสุดนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่กรุงปักกิ่งออกมาตรการควบคุมสกุลเงินดิจิทัล  ย้อนกลับไปในปี 2017  จีนได้สั่งปิดตลาดแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีภายในประเทศ  ส่งผลให้ตลาดเก็งกำไรที่เคยครองส่วนแบ่งการตลาดการซื้อขาย Bitcoin ทั่วโลก ราว 90% ต้องปิดตัวลง

แม้จะมีการห้ามการซื้อขาย crypto แต่จีนก็กลายเป็นตลาดแลกเปลี่ยน crypto ที่ใหญ่ที่สุดใน Binance เมื่อปีที่แล้ว

มีรายงานว่าผู้ใช้ Binance ในประเทศจีนมีส่วนร่วมในการซื้อขาย crypto มูลค่าประมาณ 90 พันล้านดอลลาร์ภายในหนึ่งเดือนในปี 2023 ซึ่งคิดเป็นประมาณ 20% ของปริมาณการซื้อขายทั่วโลกของ Binance ในเวลานั้น เชื่อกันว่ามีผู้ใช้งาน Binance มากกว่า 900,000 รายในประเทศจีน

ที่มา : cryptonews