<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผู้ก่อตั้ง ‘Animoca Brands’ เชื่อราคา Bitcoin จะต้องพุ่งทะลุเกิน 1 ล้านดอลลาร์

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Yat Siu ผู้ก่อตั้ง Animoca Brands ร่วมพูดคุยในหัวข้อ “ Bitcoin’s Revenge: Is Web3 Making a Comeback?”  ที่งาน WebSummit Rio เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา

ในระหว่างอภิปราย Yat Siu กล่าวว่า เขาไม่มีข้อสงสัยใด ๆ หากราคา Bitcoin จะพุ่งแตะ 1 ล้านดอลลาร์

“ผมเชื่อว่า ราคา Bitcoin จะมีมูลค่าพุ่งทะลุเกิน 1 ล้านดอลลาร์ในอนาคต และผมเชื่อว่า ไม่ใช่เพราะ Bitcoin เป็นแหล่งเก็บรักษามูลค่า แต่เป็นเพราะ Bitcoin จะกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่สำคัญที่สุดของเศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคต”

Kristina Lucrezia Cornèr เอกอัครราชทูตของ Cointelegraph ได้ดำเนินการอภิปราย โดยมี Monica Long ประธานของ Ripple  ได้ร่วมพูดคุยกับ Siu  ซึ่ง Monica Long เน้นย้ำว่า การพัฒนาตลาดคริปโตมีความสำคัญมากกว่าราคา Bitcoin:

“ผมคิดว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดที่พวกเราทุกคนควรจะมุ่งเน้นคือ ประโยชน์ใช้สอยที่แท้จริงของสินทรัพย์ดิจิทัล (crypto assets) เพราะนั่นคือ สิ่งที่จะผลักดันให้เกิดมูลค่าในระยะยาว เสถียรภาพ และสภาพคล่อง สำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมดในระบบคริปโต”

Monica Long  เอ่ยชื่นชมบราซิล และกล่าวว่า บราซิลเป็นหนึ่งในประเทศที่มุ่งเน้นการพัฒนาคริปโตอย่างแท้จริง

“บราซิล … เป็นประเทศที่เราเห็นการริเริ่มพัฒนาคริปโตเคอเรนซีอย่างจริงจัง  มีทั้งรัฐบาลที่กำลังสร้างกฎระเบียบที่ชัดเจนสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล และ ชุมชนนักพัฒนาที่มีความมุ่งมั่น  และธนาคารการเงินแบบดั้งเดิมอย่าง Itaú ที่สนับสนุนคริปโตเคอเรนซี  ทั้งหมดนี้ผสมผสานกัน เป็นเครื่องบ่งชี้ว่า บราซิลให้ความสำคัญกับคริปโตเคอเรนซีอย่างแท้จริง”

Kristina Lucrezia Cornèr เน้นย้ำถึงความสำคัญของ Web3  ในการมอบอำนาจให้กับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ไม่มีทางเลือกมากนักในสังคม  โดยกล่าวว่า:

“Web3 คือ การมอบอำนาจให้กับประชาชน สำหรับผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงบางสิ่งบางอย่างได้”

เมื่อการอภิปรายเปลี่ยนหัวข้อไปที่ Web3 นั้น Monica Long ได้เน้นย้ำว่า บริษัท Web3 ในปีนี้จะมีการเติบโตมากขึ้น ซึ่งแตกต่างจากวัฏจักรของตลาดอื่น ๆ  และที่สำคัญไม่แพ้กัน การเติบโตนี้ยังสะท้อนให้เห็นได้จากการที่สถาบันต่าง ๆ ในปัจจุบัน  หันมาสนใจและยอมรับ Web3 มากขึ้น โดยกล่าวว่า:

“ถ้าคุณลองคิดดู แบรนด์ยักษ์ใหญ่ในวงการบริการทางการเงินบางแห่ง เช่น Goldman, BlackRock และ Fidelity พวกเขาสร้างผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ขึ้นมา ในช่วงตลาดขาลง ซึ่งหมายความว่า พวกเขามองเห็นภาพรวมที่ใหญ่กว่า ดังนั้นผมคิดว่า นั่นคือสิ่งที่จะแตกต่างไปจากเดิมมากในปีนี้ สำหรับการยอมรับของสถาบันการเงินที่เข้ามาเกี่ยวข้อง

Web3 และ Spot Bitcoin ETF

Siu พูดเน้นย้ำว่า การเข้าถึงทางการเงินและผลกระทบของมัน   โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อบล็อกเชนและเกม Web3 มีความสำคัญมากกว่าการยอมรับจากสถาบันการเงิน เขากล่าวว่า:

“เราเห็นตัวอย่างในประเทศอย่างฟิลิปปินส์ หรือแม้กระทั่งบางประเทศในละตินอเมริกา มีประชากรหลายล้านคนทั่วโลกที่ไม่มีบัญชีธนาคาร ไม่มีการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย บางคนอาจไม่มีแม้แต่การศึกษาระดับมัธยมศึกษาด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ ด้วยการมีกระเป๋าเงินดิจิทัล (crypto wallet) พวกเขาเหล่านี้ก็สามารถเข้าถึงระบบการเงินรูปแบบใหม่ และกลายเป็นผู้รู้ด้านการเงินในระดับหนึ่ง โดยได้รับการเรียนรู้ผ่านเกม ซึ่งเป็นรูปแบบของการเล่นอีกแบบหนึ่ง”

เมื่อพูดถึงกองทุน spot Bitcoin exchange-traded funds: ETFs Monica Long กล่าวว่า Ripple กำลังทำงานร่วมกับธนาคารและบริษัทรับชำระเงินทั่วโลก เพื่อใช้บล็อกเชนเป็น layer พื้นฐานหรือโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ในการทำให้การโอนเงินระหว่างประเทศมีประสิทธิภาพมากขึ้น ฉันสังเกตเห็นความสนใจในตลาดคริปโตเคอเรนซีที่เพิ่มขึ้นจากธนาคาร และสงสัยว่าจะรับประกันความเสี่ยงต่อตลาดที่มีการควบคุมได้อย่างไร:

“เช่นเดียวกับที่ในบราซิล มีการเติบโตที่แข็งแกร่งมากกว่าอย่างแน่นอน เหมือน ฮ่องกง ที่เป็นตลาดสำคัญอีกแห่งหนึ่ง ฉันคิดว่า สิ่งที่น่าสนใจประการหนึ่งคือ เรายังไม่ถึงจุดสูงสุดของ Bitcoin ETF ซึ่งหมายความว่า spot Bitcoin ETF จะปรากฏในตลาดอื่น ๆ โดยขณะนี้ในฮ่องกง จากนั้นก็ที่ สิงคโปร์ โตเกียว ลอนดอน ยุโรป จะตามมา”

ที่มา : cointelegraph