<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

สำนักงานอัยการสูงสุดของสหรัฐฯ (DOJ) ชี้ CZ ผู้ก่อตั้ง Binance สมควรได้รับโทษจำคุก 3 ปี

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

สำนักงานอัยการสูงสุดของสหรัฐฯ (DOJ) ต้องการให้ Changpeng Zhao จำคุกเป็นเวลา 36 เดือน หลังจากเขาให้การสารภาพผิดเมื่อปีที่แล้ว

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) กล่าวเมื่อคืนวันอังคารว่า  Changpeng Zhao “CZ”ผู้ก่อตั้งและอดีต CEO ของ Binance ควรถูกจำคุกเป็นเวลา 3 ปี สำหรับบทบาทของเขาที่ทำให้ Binance  บริษัทเว็บเทรดคริปโตเคอเรนซี ละเมิดกฎหมายคว่ำบาตรของรัฐบาลกลางและกฎหมายฟอกเงิน ซึ่งทนายความของ Changpeng Zhao  โต้แย้งว่า เขาไม่ควรได้รับโทษจำคุก โดยกล่าวถึงค่าปรับที่  Changpeng Zhao จ่ายไปแล้ว และ เขายอมรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างบริสุทธิ์ใจ

สำนักงานอัยการสูงสุดสหรัฐฯ (DOJ) ได้ยื่นบันทึกการพิจารณาโทษ โดยระบุว่า นาย Changpeng Zhao “CZ”  ควรถูกจำคุก 36 เดือน และจ่ายค่าปรับ 50 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่เขายอมรับสารภาพผิด ฐานละเมิดกฎหมาย Bank Secrecy Act เมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้ว

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ทนายของ Changpeng Zhao ได้ยื่นบันทึกการพิจารณาโทษของตนเองโดยระบุว่า  “ไม่มีจำเลยคนใด ในคดีการละเมิดกฎหมาย Bank Secrecy Act ที่คล้ายคลึง เคยให้ถูกตัดสินจำคุก” แต่เสนอแนะให้เขาถูกคุมประพฤติ ซึ่งอาจรวมถึงการกักบริเวณที่บ้านพักของเขาในอาบูดาบี

เอกสารดังกล่าวระบุว่า “บทลงโทษในคดีนี้ ไม่เพียงแค่ส่งสัญญาณไปยัง Changpeng Zhao เท่านั้น แต่ยังส่งไปยังทั่วโลกด้วย  ซึ่ง Changpeng Zhao ได้รับผลกรรมมหาศาล จากการละเมิดกฎหมายสหรัฐฯ โดยราคาของการละเมิดนั้นต้องมีความรุนแรงพอที่จะลงโทษ Changpeng Zhao สำหรับการกระทำผิดทางอาญาของเขาอย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อป้องกันผู้อื่นที่คิดจะสร้างโชคลาภและอาณาจักรธุรกิจด้วยการละเมิดกฎหมายสหรัฐฯ”

ตามข้อตกลงของการรับสารภาพผิด เบื้องต้น Changpeng Zhao อาจถูกจำคุกสูงสุด 18 เดือน  แต่สำนักงานอัยการสูงสุดสหรัฐฯ (DOJ) ให้เหตุผลว่า “ขอบเขตและผลกระทบจากการกระทำผิดของ Changpeng Zhao นั้นร้ายแรงมาก ดังนั้น การเพิ่มโทษจึงเป็นสิ่งที่เหมาะสม”

เอกสารดังกล่าวชี้ไปที่การเคลื่อนไหวของเงินทุนจากตลาดมือและบริการ crypto mixer ว่า เนื่องจาก Changpeng Zhao ไม่ได้ดำเนินการตามโปรแกรมป้องกันการฟอกเงินที่มีประสิทธิภาพ ทำให้แพลตฟอร์มเว็บเทรด Binance ถูกผู้กระทำผิดกฎหมาย นำไปใช้ประโยชน์ในหลากหลายวิธี  เช่น การใช้บริการผสมเหรียญที่ซ่อนแหล่งที่มา (mixing services) และแสดงความเป็นเจ้าของของสกุลเงินดิจิทัล รวมถึงการทำธุรกรรมด้วยเงินที่ได้มาโดยมิชอบธรรมจากการโจมตีด้วย Ransomware และการเคลื่อนย้ายผลตอบแทนที่ได้จากการซื้อขายสินค้าผิดกฎหมายในตลาดมืด การแฮ็กธุรกรรมในเว็บเทรด และการหลอกลวงโดยใช้กลโกงทางอินเตอร์เน็ตประเภทต่างๆ

บันทึกการพิจารณาโทษส่วนใหญ่ สะท้อนถึงข้อโต้แย้งที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) เคยยื่นฟ้อง Binance และ Changpeng Zhao  ครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว โดยเน้นย้ำถึงวิธีการที่แพลตฟอร์ม Binance ได้ดำเนินงานภายในสหรัฐฯ

ที่มา : coindesk