<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

วิจัยใหม่เผยมีเศรษฐี Bitcoin เพิ่มขึ้น 1,500 รายต่อวัน แต่พวกเขาทำอะไรหลังรวยแล้ว ? 

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ปัจจุบันมีกระเป๋าเงิน Bitcoin ประมาณ 1,500 ใบ ที่มีรายได้ทะลุหลักล้านดอลลาร์ (คิดตามอัตราแลกเปลี่ยน ณ ปัจจุบัน) ต่อวัน 

แน่นอนว่าการกลายเป็นเศรษฐีคริปโตใหม่ป้ายแดงมักเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ และความคิดของพวกเขาจากหน้ามือเป็นหลังมือ  ซึ่งในบทความนี้มาดูกันว่า จะมีอะไรที่พวกเขาเปลี่ยนไปบ้าง

ราคา Bitcoin พุ่งแตะสู่ระดับสูงสุดตลอดกาล (ATH) ทำให้มีจำนวนเศรษฐีคริปโตเพิ่มมากขึ้นทุกวัน 

ตามข้อมูลจากสถาบันวิจัยคริปโต Kaiko Research พบว่า “มีกระเป๋าเงินเศรษฐี” ใหม่ เพิ่มขึ้นประมาณ 1,500 ใบทุกวัน 

กระเป๋าเงิน Bitcoin มีมูลค่าถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ – ที่มา: Kaiko Research

ตัวเลข 1,500 กระเป๋าเงินนั้น อาจจะไม่ได้หมายถึงจำนวนคนจริง ๆ 1,500 คน  แต่มันสะท้อนให้เห็นภาพรวมว่า ตอนนี้มีคนจำนวนมากกำลังร่ำรวยขึ้นจากคริปโต มากกว่าที่พวกเขาเคยคิดฝันไว้ นั้นเป็นเพียงแค่ Bitcoin อย่างเดียว  คนที่ร่ำรวยขึ้นจากคริปโตจริง ๆ  น่าจะมีมากกว่านั้น  เพราะยังมีคนที่ประสบความสำเร็จกับ altcoin และ เหรียญมีม อีกด้วย

แต่ผลสำรวจเศรษฐีพันล้านของ CNBC ที่เกิดขึ้นในช่วงตลาดขาขึ้นของ Bitcoin ปี 2021 ระบุว่า 83% ของเศรษฐีพันล้านเจนมิลเลนเนียล มีการถือครองสกุลเงินดิจิทัล

ด้วยการที่ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (ATH) จากเหตุการณ์ Bitcoin halving ,การอนุมัติกองทุน crypto ETF และการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในวอชิงตัน ทำให้หลายคนคาดการณ์ว่า ตลาดขาขึ้นกำลังจะมาถึง อาจจะทำให้ชีวิตของคุณเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล

การเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ของเศรษฐีพันล้านสายคริปโต

Erik Finman จาก Idaho เริ่มซื้อ BTC ก่อนที่เขาจะเป็นวัยรุ่น และเมื่ออายุ 18 ปี เขาก็กลายเป็นหนึ่งใน เศรษฐี Bitcoin ที่อายุน้อยที่สุดแล้ว 

เขาลงทุนครั้งแรกเมื่ออายุ 12 ปี ในปี 2011 หลังจากที่คุณยายของเขา ให้เช็คมูลค่า 1,000 ดอลลาร์ เพื่อเป็นทุนการศึกษา แต่เขากลับเอาไปซื้อ Bitcoin จำนวน 100 BTC ซึ่งมีมูลค่า 10 ดอลลาร์ ในขณะนั้น

การก้าวขึ้นเป็นเศรษฐีพันล้าน เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อโลกใบนี้  เขากล่าวว่า มันวิเศษมากที่ได้เห็นว่า “การมีฐานะนั้นสามารถเปิดประตูได้มากมาย”  สิ่งที่เคยดูเหมือนเป็นไปไม่ได้  “กลับกลายเป็นความเป็นไปได้ที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม”

การซื้อรถยนต์เป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ

Erik Finman ได้เล่าถึงการซื้อ Audi R8 ใหม่เอี่ยม พร้อมป้ายทะเบียนแบบกำหนดเองที่อ่านว่า “2.1 GPA”

เขากล่าวว่า  การได้ป้ายทะเบียนนั้นเป็นการทำแบบ “เล่นๆ” (my tongue-in-cheek) แม้เขาจะไม่ใช่นักเรียนดีเด่น  Finman ทำการดร็อปเรียน แล้วลาออกจากโรงเรียนตอนอายุ 15 เพื่อไล่ตามความฝันในสายหุ่นยนต์

เขาจำวันที่ไปรับรถและขับ Audi R8 เป็นครั้งแรกได้แม่นยำ  เขายอมรับว่าตัวเอง “ไม่ค่อยเข้ากับเพื่อนหรือเรียนเก่งในโรงเรียน” แต่พอเขาไปเจอกับเพื่อนๆ พร้อมกับรถคันนี้  “มันดึงดูดความสนใจจากทุกคนอย่างแน่นอน”  รถคันนี้เป็น “สิ่งที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง” จากสมัยเรียนมัธยม  และมันมีความสำคัญกับเขามาก

Erik Finman กับ Audi R8 ที่ซื้อมา ที่มา ข้อมูล

การซื้อบ้าน ความฝันที่เป็นจริง

Chris Dunn นักลงทุนคริปโต และนักศึกษา Bitcoin เล่าว่า การเป็นเศรษฐีของเขาทำให้เขาสามารถเติมเต็มความฝันที่ไม่เคยทำได้มาก่อน ต้องขอบคุณการซื้อขาย ETH จากปี 2021 เขาจึงสามารถซื้อบ้านในฝันได้

เช่นเดียวกับ Erik Finman กับ Audi R8 ของเขา และ Chris Dunn ได้เมื่อมองย้อนกลับไป เขาเล่าว่า “เพื่อนนักเทรด และเพื่อนร่วมงาน” ของเขา หัวเราะเยาะเขา  และบอกว่าเขาเสียเวลา” ไปกับการลงทุนในคริปโต

มุมมองของเศรษฐีพันล้านสายคริปโตต่อเงินจำนวนมาก 

การจะเป็นเศรษฐีคริปโต ขึ้นอยู่กับจำนวนความมั่งคั่งที่คุณสะสมมา และจำนวนกำไรที่คุณได้รับรู้ว่า นั่นไม่ใช่แค่ตัวเลขในพอร์ตโฟลิโอ crypto ของคุณ ความมั่งคั่งสามารถรักษาไว้ได้ผ่านดอกเบี้ยทบต้น และการลงทุนที่ชาญฉลาด เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น เงินสามารถเปลี่ยนเป็นเครื่องมือที่มีอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง โดยเปลี่ยนทั้งการรับรู้และการใช้งาน

สำหรับ Erik Finman การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุด คือการมี “อิสระในการมุ่งความสนใจไปที่โปรเจกต์ และความสนใจของตัวเองแบบเต็มเวลา แทนที่จะต้องทำงานตามปกติ” การร่ำรวยไม่ได้ทำให้เขาใช้เวลาทั้งวันพักผ่อนใต้ร่มชายหาดพร้อมกับจิบพินยาโคลาดาได้

ตอนนี้เขามุ่งไปที่การลงทุน การสร้างธุรกิจ และสร้างความมั่งคั่งเพิ่มเติม มากกว่าแค่การหารายได้ และการออม “การได้เห็นว่าความมั่งคั่งสามารถเติบโตได้มากเพียงใดด้วยการลงทุนที่เหมาะสม ทำให้เขาคิดเกี่ยวกับเงินแตกต่างออกไป” 

สำหรับ Chris Dunn การมียอดเงินในธนาคารที่ดี เปลี่ยนการรับรู้เรื่องเงินของเขา

“ตอนที่ผมยังจน ผมมักจะใช้เงินไปกับการแต่งตัว และใช้ชีวิตให้ดูรวย  แต่ตอนนี้ผมโฟกัสที่การสร้างความมั่งคั่งเหมือนเล่นเกมส์  โดยใช้เงินเป็นเหมือนสัญลักษณ์สะสมคะแนน”

ขณะที่พวกเขายังคงพยายามสร้างความมั่งคั่ง พวกเขายังคงตระหนักดีถึงค่าใช้จ่ายของตน Erik Finman ยอมรับว่า “แน่นอนว่า ผมเต็มใจที่จะช่วยเหลือเพื่อนฝูงและครอบครัวมากขึ้น” แต่เสริมว่า “ผมยังระมัดระวังมากขึ้นในการหลีกเลี่ยงการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย”

ความท้าทายใหม่ที่เศรษฐีคริปโต ต้องเผชิญ

เมื่อความมั่งคั่งได้เติบโตขึ้น ความรับผิดชอบ และปัญหาใหม่ ๆ ก็เกิดขึ้น

Chris Dunn  ยอมรับว่า เขารู้สึกว่าถูกบังคับให้ “ใช้มาตรการที่รุนแรงเพื่อปกป้องตัวเอง” การมีเงินดิจิทัลจำนวนหนึ่งล้านในกระเป๋าเงินนั้นคล้ายคลึงกับการมีกระเป๋าเงินในชีวิตจริงที่มีธนบัตรหนึ่งล้านดอลลาร์ หากคุณถูกปล้น และกระเป๋าเงินถูกขโมย คุณจะไม่มีทางกู้คืนได้

มีรายงานจำนวนมากเกี่ยวกับการโจรกรรมสกุลเงินคริปโตในชีวิตจริง ภัยคุกคามด้านความปลอดภัยนั้นมีอยู่จริง ซึ่งสิ่งนี้กลายเป็นปัญหาใหม่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ซึ่งจะต้องแก้ไขเมื่อพวกเขากลายเป็นเศรษฐีคริปโต

อีกหนึ่งปัญหาที่เศรษฐีพันล้านเผชิญ แม้จะไม่รุนแรงและไม่ถึงแก่ชีวิต ก็คือ เรื่องภาษี Chris Dunn อธิบายว่า การ “เสียภาษีและการหาทางปรับกลยุทธ์การจ่ายภาษีให้ดีที่สุด” กลายเป็นหนึ่งในความท้าทายแรก ๆ ที่เขาต้องเจอ

ที่มา : cointelegraph