Dtcpay แพลตฟอร์มการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลในสิงคโปร์ ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงนโยบายสำคัญ โดยจะรองรับเฉพาะ stablecoins เท่านั้น เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม 2025 เป็นต้นไป การตัดสินใจครั้งนี้จะส่งผลให้บริษัทยุติการรับชำระเงินด้วย Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH)
ตามรายงาน ของบริษัทระบุว่า วัตถุประสงค์ของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือ การนำเสนอระบบการชำระเงินที่มีเสถียรภาพ ปลอดภัย และน่าเชื่อถือมากขึ้น
Dtcpay ก่อตั้งขึ้นในปี 2019 เป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีทางการเงิน โดยได้รับการสนับสนุนจากอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น Pontiac Land ของสิงคโปร์ และบริษัทได้รับใบอนุญาตการชำระเงิน จากธนาคารกลางสิงคโปร์ในปี 2022
การเปลี่ยนแปลงของ Dtcpay ไปสู่ Stablecoins
การเปลี่ยนแปลงนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางความต้องการที่เพิ่มขึ้น สำหรับตัวเลือกการชำระเงินที่มีเสถียรภาพ ปลอดภัย และอยู่ภายใต้การกำกับดูแล
สกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin และ Ethereum มีความผันผวนของราคาสูง ซึ่งสร้างความเสี่ยงให้กับธุรกิจและผู้ใช้งาน
Stablecoins ซึ่งผูกกับสกุลเงินดั้งเดิม เช่น ดอลลาร์สหรัฐ นำเสนอทางเลือกที่คาดการณ์ได้ และมีเสถียรภาพมากกว่าสำหรับธุรกรรมดิจิทัล ซึ่ง Dtcpay เชื่อว่าการเคลื่อนไหวนี้จะทำให้การชำระเงินปลอดภัยและง่ายขึ้นสำหรับทุกคน
การตัดสินใจของ Dtcpay สอดคล้องกับแนวโน้มที่กว้างขึ้นในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทางการเงิน ตามรายงานจาก Chainalysis แสดงให้เห็นว่า การชำระเงินด้วย stablecoin ในสิงคโปร์มีมูลค่าเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์ ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2024
Dtcpay จะรองรับเฉพาะ stablecoin บางประเภทเท่านั้น เช่น USDt (USDT) ของ Tether, USD Coin ของ Circle (USDC), First Digital USD (FDUSD) และ Worldwide USD (WUSD) ซึ่ง stablecoin เหล่านี้ มีการสำรองที่แท้จริง เพื่อรักษามูลค่าให้คงที่ที่ 1:1 กับดอลลาร์สหรัฐ
บริษัทสิงคโปร์ระบุว่า รูปแบบที่รองรับเฉพาะ stablecoin นี้ สอดคล้องกับพันธกิจในการมอบ “ประสบการณ์การชำระเงินที่น่าเชื่อถือ ปรับขยายขนาดได้ และปลอดภัยยิ่งขึ้น” สำหรับลูกค้า ความมุ่งมั่นของแพลตฟอร์มในด้านการสร้างเสถียรภาพ มีความสำคัญในระบบนิเวศทางการเงิน
การเปลี่ยนแปลงนี้ยังสอดคล้องกับกฎระเบียบที่เพิ่มขึ้นในประเทศต่างๆ เช่น สิงคโปร์ ซึ่งรัฐบาลกำลังกำหนดกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล โดย Dtcpay พร้อมที่จะปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดและตอบสนองความต้องการของตลาด
- ที่มา : cryptopolitan
- ที่มาภาพ : dtcpay