หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสเปนร่วมมือกับ Tron, Tether และ TRM Labs ในการอายัดคริปโทเคอร์เรนซีมูลค่ากว่า 26.4 ล้านดอลลาร์ หลังพบเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินในยุโรป โดยปฏิบัติการนี้ดำเนินการร่วมกับ T3 Financial Crime Unit ซึ่งเป็นโครงการต่อต้านอาชญากรรมที่เปิดตัวเมื่อเดือนสิงหาคม 2024 โดยบริษัทบล็อกเชนทั้งสาม
การสืบสวนครั้งนี้อาศัยการเฝ้าระวังของตำรวจในการระบุตัวองค์กรอาชญากรรม และใช้ข้อมูล KYC จากผู้ให้บริการคริปโทเพื่อตรวจสอบกระเป๋าเงินที่เชื่อมโยงกับกิจกรรมผิดกฎหมาย ถือเป็นการยึดทรัพย์ครั้งใหญ่ที่สุดของ T3 Unit เพิ่มเติมจากยอดรวม 126 ล้านดอลลาร์ที่เคยดำเนินการในปีแรก
“องค์กรนี้เคลื่อนย้ายเงินหลายล้านดอลลาร์ข้ามพรมแดน ทั้งในรูปแบบเงินสดและคริปโท เพื่อช่วยเหลือกลุ่มอาชญากรรมในการฟอกเงิน”
Tron รายงานว่า พวกเขาสามารถลดปริมาณธุรกรรมผิดกฎหมายบนบล็อกเชนของตนลงได้ถึง 6 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม TRM Labs ชี้ว่า 49% ของธุรกรรมผิดกฎหมายบน Tron เกี่ยวข้องกับหน่วยงานที่ถูกคว่ำบาตร และอีก 32% เชื่อมโยงกับกองทุนที่ถูกบล็อก ถึงแม้ Tron จะลดการใช้งานที่ผิดกฎหมายได้ แต่ยังคงเป็นบล็อกเชนที่มีธุรกรรมผิดกฎหมายมากที่สุด คิดเป็น 58% ของกิจกรรมทั้งหมด
ในขณะที่ Tether ซึ่งเป็นผู้ออกเหรียญ USDT ได้สร้างกลไกเพื่อบล็อกธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมาย โดย CEO Paolo Ardoino กล่าวว่า “ขอให้เรื่องนี้เป็นคำเตือนชัดเจนว่า อาชญากรที่พยายามใช้ Tether ในทางที่ผิดจะถูกจับได้”
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา Tether ได้เคยยึด USDT ที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงไปแล้วกว่า 225 ล้านดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน 2023 โดยเฉพาะ pig butchering scams หรือการใช้กลอุบายทางความสัมพันธ์เพื่อหลอกเหยื่อ ซึ่งปัจจุบันอาชญากรรมลักษณะนี้แพร่หลายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเหยื่อบางรายถูกลักพาตัวและบังคับให้ทำงานในรีสอร์ต
นอกจากนี้ องค์กรอาชญากรรมยังฟอกเงินผ่านตลาดมืดอย่าง Huione Guarantee ซึ่งเคยพึ่งพา Tether เป็นหลัก แต่เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกอายัดเงิน แพลตฟอร์มนี้ได้ออกเหรียญ Stablecoin ของตัวเองในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ตามรายงานจาก Elliptic บริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์
ที่มา: Cointelegraph