กระแสการเปิดตัวเหรียญใหม่บนเครือข่าย Solana กำลังชะลอตัว หลังจากที่เหรียญมีมหลายเหรียญถูกตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความเป็นการเก็งกำไรที่มากเกินไป และการเชื่อมโยงกับการหลอกลวงทางการเงิน
จากข้อมูลของ Solscan จำนวนเหรียญใหม่ที่เปิดตัวรายวันบน Solana ลดลงเหลือ 49,779 เหรียญในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ จากระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 95,578 เหรียญเมื่อวันที่ 26 มกราคม ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดตั้งแต่วันปีใหม่ 2025

เหรียญมีมได้รับความนิยมอย่างมากในเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังจาก Donald Trump อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดตัวเหรียญของตัวเอง ทำให้เกิดกระแสความคลั่งไคล้เหรียญแนวนี้โดยมีนักการเมืองหลายคนเข้าร่วม
อย่างไรก็ตาม วงจรนี้ดูเหมือนจะถึงจุดสูงสุดแล้ว หลัง Javier Milei ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา ทวีตเกี่ยวกับเหรียญ Libra (LIBRA) โดยอ้างว่าเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจของประเทศ แต่ภายหลังโพสต์ดังกล่าวถูกลบ และผู้สร้างเหรียญ LIBRA ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายวงในและฉ้อโกงนักลงทุนเป็นเงิน 251 ล้านดอลลาร์ ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อมา
ข้อมูลจากแพลตฟอร์ม Pump.fun พบว่า การเปิดตัวเหรียญใหม่บน Solana ก็กำลังเผชิญกับแรงกดดัน โดยมีเหรียญใหม่เกิดขึ้นเพียง 35,152 เหรียญในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันคริสต์มาส 2024 ขณะที่รายได้ลดลงเหลือเพียง 1.69 ล้านดอลลาร์ ต่ำสุดนับตั้งแต่พฤศจิกายนปีที่แล้ว
แม้ Solana จะสามารถใช้กระแสเหรียญมีมผลักดันให้เครือข่ายเติบโตในแง่ของค่าธรรมเนียม ผู้ใช้งาน และจำนวนธุรกรรม แต่มีรายงานว่ากิจกรรมจำนวนมากเป็นผลมาจากบอทและธุรกรรมที่ไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งอาจไม่ส่งผลดีต่อการเติบโตในระยะยาว
ในขณะที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญในวงการเริ่มแสดงความกังวลว่า ความคลั่งไคล้เหรียญมีมอาจทำให้สภาพคล่องไหลไปสู่เหรียญที่ไม่มีมูลค่าพื้นฐาน และส่งผลต่อการเติบโตของตลาด Altcoin โดยรวม โดยข้อมูลจาก Cointelegraph ระบุว่า 24% ของเหรียญคริปโต 200 อันดับแรกอยู่ในระดับราคาต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งปี
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนออกมาเตือนถึงปัญหาการฉ้อโกงในตลาดเหรียญมีม โดย Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ได้แสดงความไม่พอใจที่ชุมชนบล็อกเชนบางส่วนวิพากษ์วิจารณ์จุดยืนของ Ethereum ที่ต่อต้านโปรเจกต์ลักษณะ “คาสิโน” และ Brian Armstrong CEO ของ Coinbase ก็ออกมาระบุว่า เหรียญมีมบางเหรียญ “เลยเถิด” ไปจนถึงขั้นที่มีการซื้อขายวงในอย่างโจ่งแจ้ง
โดยล่าสุด คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ประกาศจัดตั้งหน่วย Cyber and Emerging Technologies Unit เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ เพื่อดูแลและควบคุมการฉ้อโกงในตลาดบล็อกเชนและคริปโต โดยจะให้ความสำคัญกับการคุ้มครองนักลงทุนรายย่อยเป็นหลัก
ที่มา: Cointelegraph