การอัปเกรด Pectra ซึ่งถือเป็นอัปเกรดที่ใหญ่ที่สุดของ Ethereum นับตั้งแต่ปี 2024 ถูกเลื่อนออกไป หลังจากพบบั้คในระหว่างการทดสอบบนเครือข่าย Holesky และ Sepolia ทำให้นักพัฒนาตัดสินใจเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ก่อนจะดำเนินการต่อ
Pectra ถูกวางแผนมา เพื่อช่วยให้ Ethereum แข่งขันกับบล็อกเชนอื่น ๆ ได้ดีขึ้น โดยจะมีการปรับปรุง ทั้งในด้านความเร็วและความสะดวกในการใช้งาน
เดิมที นักพัฒนาตั้งใจจะใช้การประชุม เมื่อวันที่ 6 มีนาคม เพื่อตัดสินใจวันเปิดตัว Pectra บนเครือข่ายหลัก (mainnet) ซึ่งตามแผนเดิม หากไม่มีปัญหาเกิดขึ้น การอัปเกรดนี้จะถูกใช้งานจริงภายในเดือนมีนาคม
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นในระหว่างการทดสอบ ส่งผลให้ทีมพัฒนาตัดสินใจเลื่อนแผนออกไปก่อน แม้ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจะไม่ได้เกี่ยวกับ Pectra โดยตรง แต่มาจากการตั้งค่าการทดสอบที่ผิดพลาด
Alex Stokes นักวิจัยจาก Ethereum Foundation ที่เป็นผู้นำการประชุม เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ระบุว่า “เรายังต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก่อน จะกำหนดวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ”
ดังนั้น นักพัฒนาจึงตัดสินใจสร้าง “Shadow Fork” ของเครือข่าย Holesky เพื่อใช้เป็นพื้นที่ทดสอบชั่วคราว โดย Shadow Fork เป็นเครือข่ายที่ก๊อปปี้มาจากบล็อกเชนจริง และจะถูกลบทิ้งเมื่อไม่จำเป็นต้องใช้งานอีกต่อไป
ปัจจุบัน Holesky อยู่ในสภาพ “ใช้งานไม่ได้” เนื่องจากการทดสอบ Pectra รอบก่อนหน้า ส่งผลให้โหนดตรวจสอบธุรกรรม (validators) จำนวนมากออฟไลน์ ทำให้เครือข่ายไม่สามารถบันทึกธุรกรรมได้ตามปกติ
การสร้าง Shadow Fork จะช่วยให้ นักพัฒนาและกลุ่มผู้ให้บริการ staking pool สามารถทดสอบ Pectra ได้ต่อไป ในขณะที่ Holesky กำลังอยู่ในช่วงซ่อมแซม
ทีมพัฒนาคาดว่า เครือข่าย Holesky จะกลับมาใช้งานได้ตามปกติในวันที่ 28 มีนาคม หลังจากโหนดตรวจสอบธุรกรรมกว่า 67% ดำเนินการรีเซ็ต และตั้งค่าระบบใหม่ เมื่อถึงตอนนั้น ทีมงานจะมีข้อมูลมากพอ ที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับการเปิดตัว Pectra บนเครือข่ายหลักได้อีกครั้ง
การอัปเกรด Pectra มีฟีเจอร์หลักที่สำคัญ ทั้ง EIP-7702 ที่ช่วยเพิ่มความสามารถให้กระเป๋าคริปโต สามารถทำงานแบบ Smart Contract ได้ ทำให้สามารถพัฒนา Wallet ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้มากขึ้น เช่น การใช้สกุลเงินอื่น ชำระค่าธรรมเนียมแทน ETH
และ EIP-7251 ที่ปรับปรุงระบบ Validator โดยเพิ่มจำนวน ETH สูงสุด ที่สามารถ stake ในแต่ละโหนดจาก 32 ETH เป็น 2,048 ETH ลดความยุ่งยากสำหรับนักลงทุนที่ต้องกระจายสินทรัพย์ไปหลายโหนด
การเลื่อนอัปเกรดครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชุมชน Ethereum ที่รู้สึกว่า Ethereum Foundation ไม่มีแผนงานที่ชัดเจน ทำให้เครือข่ายไม่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น Solana ได้
หลายคนมองว่าการที่ ราคา ETH ไม่สามารถขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ได้ เป็นสัญญาณว่า ตลาดเริ่มสูญเสียความมั่นใจใน Ethereum และหันไปสนใจบล็อกเชนอื่นแทน
แม้จะมีเสียงวิจารณ์ แต่ทีมพัฒนายังคงมุ่งมั่นที่จะทำให้ Pectra เป็นการอัปเกรดที่มีคุณภาพ และพร้อมสำหรับการใช้งานบนเครือข่ายหลักให้มากที่สุด ก่อนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
ที่มา : coindesk