<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Ethereum เตรียมคืนชีพ? Vitalik ดันเสนอ RISC-V ปรับโครงสร้าง Execution Layer ครั้งใหญ่

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum เสนอแนวคิดพลิกโฉมระบบการทำงานของ Ethereum ใหม่ เพื่ออัปเกรด “สมองหลัก” 

โดยปกติแล้ว Ethereum จะใช้ระบบที่เรียกว่า EVM (Ethereum Virtual Machine) ซึ่งเป็นเหมือน “เครื่องจำลอง” ที่คอยประมวลผลคำสั่งต่าง ๆ ในการรันสัญญา smart contract และคอยจัดการธุรกรรมทั้งหมดบนเครือข่าย

แต่ในเดือนเมษายน 2025 Vitalik ได้เสนอให้เปลี่ยนระบบหลักจาก EVM ไปใช้ระบบแบบใหม่ที่ชื่อว่า RISC-V ซึ่งเป็นรูปแบบการเขียนคำสั่งที่ยืดหยุ่นกว่า ทันสมัยกว่า และอัปเกรดได้ง่ายกว่าในอนาคต

พูดง่าย ๆ คือเขาอยากเปลี่ยน “ภาษาที่สมองของ Ethereum ใช้คิด” เพื่อให้ระบบสามารถปรับตัว พัฒนา และรองรับเทคโนโลยีใหม่ได้ยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น

RISC-V เป็นสถาปัตยกรรมคำสั่งแบบเปิดที่ไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ มีความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพสูง ซึ่งเหมาะกับการนำมาใช้ปรับปรุงระบบการทำงาน (execution layer) ของ Ethereum ให้เร็วขึ้นและตอบสนองได้ดีขึ้น

Buterin ได้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาคอขวดสำคัญที่ฉุดรั้งการเติบโตของเครือข่ายในระยะยาว โดยเขาระบุว่า Ethereum จำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาระบบการสุ่มตรวจสอบข้อมูล (availability sampling) ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การสร้างสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันระหว่างผู้ผลิตบล็อก (block producers) มากขึ้น รวมถึงการยกระดับ Zero-Knowledge Proof (ZK-proof) ให้สามารถประมวลผลได้รวดเร็วและประหยัดทรัพยากรมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นกุญแจสำคัญในการเสริมรากฐานของ Ethereum เพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

เขาย้ำว่า เทคโนโลยี ZK-Proofs คือกุญแจสำคัญในการทำให้ธุรกรรมรวดเร็ว ถูกลง และเป็นส่วนตัวมากขึ้น และเพื่อให้ Ethereum ยังคงสามารถแข่งขันในวงการบล็อกเชนได้ จำเป็นต้องมี “การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่”

Buterin ยังกล่าวถึงโครงการ “Beam Chain” ว่าเป็นแนวทางที่น่าสนใจในการลดความซับซ้อนของชั้นฉันทามติ (consensus layer) ของ Ethereum ได้อย่างมาก แต่การปรับปรุง execution layer อาจต้องใช้การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ไม่แพ้กัน

ที่ผ่านมา ชุมชน Ethereum พยายามหาทางแก้ปัญหาด้านการปรับขนาด (scalability) มาอย่างต่อเนื่อง และข้อเสนอใหม่นี้อาจเป็นสัญญาณว่า ถึงเวลายกเครื่องครั้งใหญ่ เพื่อให้ Ethereum พร้อมรับมือกับคลื่นนวัตกรรมลูกใหม่ในโลกบล็อกเชน

Ethereum เผชิญวิกฤตรายได้ ค่าธรรมเนียมทรุดฮวบ

Ethereum กำลังเผชิญกับแรงกดดันทางเศรษฐกิจ เพราะค่าธรรมเนียมธุรกรรม ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของเครือข่าย ลดลงจนแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายปี

ในเดือนเมษายน 2025 ค่าธรรมเนียมเฉลี่ยต่อธุรกรรมบนเครือข่ายหลักของ Ethereum อยู่ที่ประมาณ 0.16 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2020

ขณะเดียวกัน ค่าธรรมเนียม blob ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมพิเศษจากโซลูชัน layer-2 ของ Ethereum ก็ลดฮวบเช่นกัน โดยในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 มีนาคม ค่าธรรมเนียม blob ทั้งหมดมีเพียง 3.18 ETH หรือประมาณ 5,000 ดอลลาร์ ลดลงถึง 95% จากกลางเดือนมีนาคม

ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า สาเหตุที่ค่าธรรมเนียมลดลงไม่ใช่เพราะสภาพเศรษฐกิจ แต่เพราะผู้ใช้งานเปลี่ยนไปใช้เครือข่าย layer-2 อย่าง Arbitrum และ Optimism ที่ทำธุรกรรมได้เร็วกว่าและถูกกว่า

แม้ layer-2 จะช่วยให้ผู้ใช้เสียค่าธรรมเนียมน้อยลง แต่ก็กระทบกับรายได้หลักของ Ethereum อย่างหนัก หลายฝ่ายเริ่มกังวลว่า Ethereum อาจกำลังถูกระบบ scaling ของตัวเอง “แย่งรายได้” ไป

Brian Quinlivan ผู้อำนวยการจาก Santiment กล่าวว่า ผู้ใช้งานทั่วไปทำธุรกรรมแบบปกติน้อยลง แต่หันไปใช้ smart contract และ layer-2 แทน

หากแนวโน้มนี้ยังดำเนินต่อไป Ethereum อาจเผชิญปัญหาทางการเงินอย่างรุนแรง โดยความเชื่อมั่นของนักลงทุนเริ่มสั่นคลอน และนักวิเคราะห์บางคนคาดว่า ราคาของ ETH อาจร่วงลงเหลือใกล้ 1,100 ดอลลาร์ หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น

ที่มา: cryptopolitan