ดูเหมือนว่าราคาของ Bitcoin จะยังสร้างปรากฏการณ์อย่างต่อเนื่อง หลังราคาพุ่งขึ้นแตะเกือบ 106,000 ดอลลาร์ในวันนี้ท่ามกลางตลาดหุ้นและทองคำยังซบเซา นอกจากนี้ ราคา Ethereum ก็พุ่งแรงกว่า 5% ส่วนเหรียญ Altcoin อื่นอย่าง Solana, XRP, BNB และ Dogecoin ขยับขึ้น 2-4%
นักวิเคราะห์หลายรายชี้ว่าตอนนี้ Bitcoin อาจกำลังจะเกิดสัญญาณ “Golden Cross” หรือการที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นตัดขึ้นเหนือระยะยาว ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกสำคัญทางเทคนิค โดยก่อนหน้านี้เคยเกิดขึ้นแล้วสองครั้ง และผลคือราคาพุ่งขึ้น 121% และ 68% ตามลำดับ ส่งผลให้หลายฝ่ายจับตาว่า Bitcoin อาจแตะระดับ 110,000 ดอลลาร์ในไม่ช้า
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ Benjamin Cowen เตือนว่าในมุมกลับกัน ช่วงที่เกิด “Death Cross” หรือเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันตัดลงต่ำกว่าเส้น 200 วัน มักจะตามมาด้วยจุดต่ำสุดในระยะสั้น ซึ่งเกิดขึ้นมาแล้วใน Q3 ปี 2023, 2024 และล่าสุดใน Q2 ปีนี้ หาก Q3 ปีนี้ยังอ่อนตัวต่อ Bitcoin อาจเผชิญแรงเทขายรอบใหม่ได้
ในขณะที่ Ali Martinez นักวิเคราะห์ชื่อดังอีกคนหนึ่ง เสริมว่าแม้ราคาจะยังปรับขึ้นต่อ แต่ตัวชี้วัดโมเมนตัมอย่าง RSI และ MACD กำลังเริ่มอ่อนแรง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าแรงขับเคลื่อนของราคากำลังแผ่วลง
ในทางกลับกัน กระแสเงินไหลเข้าสู่ Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมสูงถึง 667 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ ซึ่งสะท้อนถึงความสนใจจากนักลงทุนสถาบันที่กลับมาอีกครั้ง
โดยข้อมูลจาก Farside Investors ระบุว่า Spot Bitcoin ETF มีเงินไหลเข้า 18 วันจาก 21 วันหลังสุด รวมมูลค่ากว่า 6.9 พันล้านดอลลาร์ภายในเวลาเพียงสามสัปดาห์
และจากวิเคราะห์ล่าสุดของ Cryptoquant พบว่าการฟื้นตัวของ Bitcoin รอบนี้ดูแข็งแรงกว่ารอบก่อนๆ ที่มักพุ่งแรงและตกฮวบในเวลาไม่นาน โดยรอบนี้แรงซื้อและสภาพตลาดดูมีสมดุลมากขึ้น ทำให้โอกาสปรับขึ้นต่อโดยไม่ดิ่งลงมีความเป็นไปได้สูง
ทั้งหมดนี้ชี้ว่าตลาดคริปโตกำลังสร้างฐานใหม่อย่างมั่นคง และการทดสอบจุดสูงสุดตลอดกาลครั้งใหม่นี้อาจเกิดขึ้นอย่างยั่งยืนกว่าที่ผ่านมา ทั้งนี้บทความดังกล่าวเป็นเพียงแค่การเสนอข่าวเท่านั้น การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจเสียเงินทั้งจำนวนได้ ดังนั้นผู้ลงทุนควรที่จะศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ อยู่เสมอ
ที่มา: Coinpedia