ดูเหมือนว่า Ethereum (ETH) ที่ Stake กับ Proof-of-Stake บนบล็อกเชน Ethereum ได้พุ่งแตะจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์นี้ โดยมีมากกว่า 35 ล้าน ETH ที่ถูกล็อกไว้ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการลดลงของซัพพลายเหรียญที่สามารถขายได้ในตลาด
ทำให้ตอนนี้ 28.3% ของซัพพลาย ETH ทั้งหมดได้ถูกล็อกอยู่ใน smart contract และไม่สามารถขายได้ในช่วงเวลาที่กำหนด เพื่อแลกกับการสร้างรายได้แบบ passive

ตัวเลขการ Stake ที่เพิ่มขึ้นนี้แสดงให้เห็นว่านักลงทุนจำนวนมากเลือกที่จะถือ ETH แทนการขายในช่วงราคาปัจจุบัน โดยในช่วงครึ่งแรกของเดือนมิถุนายน มี ETH ถูกนำไป Stake เพิ่มกว่า 500,000 เหรียญ บ่งบอกถึงความมั่นใจในระยะยาวและแนวโน้มของซัพพลายแบบมีสภาพคล่องลดลง
ในขณะที่จำนวน address ที่สะสม ETH โดยไม่มีประวัติการขายก็แตะระดับสูงสุดที่ 22.8 ล้าน ETH ซึ่งนักวิเคราะห์จาก CryptoQuant มองว่าเป็นหลักฐานว่า Ethereum เป็นหนึ่งในคริปโตที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งและนักลงทุนระยะยาวให้ความเชื่อมั่นสูงสุด

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก SEC ออกแนวทางใหม่เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม โดยระบุว่า การ Stake เหรียญในระบบ Proof-of-Stake ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนเป็นหลักทรัพย์ อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงรอการอนุมัติ Ether staking ETF ตัวแรกอยู่ หลังจาก SEC เลื่อนการตัดสินใจคำขอของ Bitwise ไปเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ข้อมูลจาก Dune Analytics ระบุว่า มากกว่า 25% ของ ETH ที่ถูก Stake อยู่ในโปรโตคอล Lido ขณะที่ Binance และ Coinbase ถืออยู่ 7.5% และ 7.4% ตามลำดับ โดยเฉพาะ Coinbase ที่กลายเป็นผู้ดำเนินการโหนด Ethereum รายใหญ่ที่สุด ด้วยการถือครองมากกว่า 11.4% ของ ETH ที่ถูก Stake ทั้งหมด

แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่า Liquid Staking อาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการรวมศูนย์ของเครือข่าย แต่การเติบโตของโครงสร้างพื้นฐาน Liquid Staking กลับกลายเป็นแรงผลักดันให้สถาบันเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น โดย Konstantin Lomashuk จาก Lido เผยว่าสัดส่วน TVL ของ Lido มาจากสถาบันเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางความต้องการที่เติบโตต่อเนื่อง
ที่มา: Cointelegraph