<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักเทรดเดอร์พอร์ตพังยับ กว่า 656 ล้านดอลลาร์ ท่ามกลางวิกฤตความตึงเครียดสหรัฐฯ-อิหร่าน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกาและอิหร่านปะทุเดือดอีกครั้ง หลังประธานาธิบดี Donald Trump ออกมายืนยันความสำเร็จของปฏิบัติการโจมตีไซต์นิวเคลียร์สำคัญของอิหร่านถึง 3 แห่ง พร้อมประกาศชัดเจนว่าหากมีการยั่วยุเพิ่มเติม สหรัฐฯ จะ “ตอบโต้กลับอย่างรุนแรงยิ่งกว่าเดิม” โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นต่อเนื่องจากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่านในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งกำลังเขย่าตลาดโลกรวมถึงตลาดคริปโตในทุกมิติ

แรงกระแทกจากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมของสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกหายวับไปกว่า 1.5% ลดลงมาอยู่ที่ราว 3.1 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่ปริมาณการซื้อขายพุ่งขึ้นแรงกว่า 26.23% สู่ระดับ 1.36 แสนล้านดอลลาร์

เมื่อเจาะลึกไปยังฝั่งของนักลงทุนรายย่อยและเทรดเดอร์สายฟิวเจอร์ส จะพบว่าภายในระยะเวลาเพียง 24 ชั่วโมง มีการล้างพอร์ตเกิดขึ้นรวมมูลค่ากว่า 656 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2.35 หมื่นล้านบาท โดยเป็น Long Position ที่ถูกล้างมากถึง 500.50 ล้านดอลลาร์ แสดงให้เห็นว่าผู้เล่นส่วนใหญ่ในตลาดครั้งนี้ ต่างคาดหวังว่าราคาเหรียญหลักจะดีดตัวกลับขึ้น แต่กลับโดนเทขายถล่มสวนทางแบบไม่ทันตั้งตัว

ในบรรดาดีลที่ถูกล้างหนักที่สุดนั้น เป็น BTC- USDT Long Position บนแพลตฟอร์ม HTX ที่มีมูลค่าสูงถึง 35.45 ล้านดอลลาร์

นอกจากนี้แพลตฟอร์มใหญ่ ๆ อย่าง Bybit, Binance และ Gate.io ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดย Bybit มีมูลค่าการล้างพอร์ตสูงถึง 252.46 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ Binance และ Gate.io ถูกล้างไป 137.57 ล้าน และ 96.57 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ ที่น่าสนใจคือ บางแพลตฟอร์มอย่าง Bitmex และ Bitfinex มีอัตราการล้าง Long สูงถึง 90% ขึ้นไป ซึ่งตอกย้ำภาพชัดว่า “ฝั่งขาขึ้นพังยับ” ในศึกสงครามข่าวรอบนี้

ในด้านของราคาเหรียญหลักต่างพากันร่วงลงอย่างต่อเนื่อง โดย Bitcoin ดิ่งลง 1.27% มาอยู่ที่ระดับ 101,497 ดอลลาร์ ขณะที่ Ethereum และ XRP ก็อ่อนแรงตามมา โดยลดลง 1.99% และ 2.52% ตามลำดับ ส่วนดัชนี Fear & Greed Index ลดฮวบลงมาอยู่ที่ระดับ 37 จุด บ่งชี้ว่านักลงทุนกำลังกลับเข้าสู่โหมด “กลัวจัดเต็ม” อีกครั้ง

อย่างไรก็ดี ในมุมของการวิเคราะห์เชิงเทคนิค มูลค่าตลาดรวมยังสามารถดีดตัวกลับเล็กน้อยจากจุดต่ำสุดที่ 3.04 ล้านล้านดอลลาร์ มาสู่ 3.09 ล้านล้านดอลลาร์ โดยตัวกราฟแตะเส้นล่างของ Bollinger Band ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการเข้าสู่สภาวะ Oversold ขณะที่ RSI อยู่ที่ระดับ 38.41 ชี้ว่าตลาดอาจเริ่มเหนื่อยกับแรงขาย แต่แนวโน้มใหญ่ยังคงอยู่ใต้เส้นค่าเฉลี่ย 20 วัน (SMA 20) ที่ 3.23 ล้านล้านดอลลาร์ จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าแรงรีบาวด์นี้จะยั่งยืน

อีกหนึ่งจุดที่น่าจับตามองคืออัตรา BTC Dominance ที่พุ่งขึ้นแตะ 64.9% สูงสุดในรอบไซเคิล ขณะที่ ETH Dominance ร่วงเหลือเพียง 8.7% ซึ่งหมายความว่าเหรียญ Altcoin หลายตัวกำลังเผชิญแรงกดดันมหาศาล และอาจเข้าสู่ภาวะปรับฐานต่อเนื่องหากความตึงเครียดยังไม่คลี่คลาย

โดยสรุปแล้ว ความร้อนแรงของสถานการณ์ตะวันออกกลางกำลังลากราคาคริปโตทั้งตลาดให้หวั่นไหวอย่างรุนแรง นักลงทุนที่ไม่เตรียมแผนรับความผันผวน หรือไม่ตั้ง Stop-Loss ไว้ ก็มีโอกาสสูงที่จะโดนลากล้างพอร์ตแบบไม่รู้ตัวอีกครั้ง นี่อาจเป็นอีกหนึ่งบทเรียนสำคัญที่เตือนเราว่า “การเมืองโลกมีผลมากกว่าที่คิด” ต่อสินทรัพย์ดิจิทัลที่ดูเหมือนจะไม่ขึ้นตรงกับใคร