วันที่ 15 กรกฎาคม 2025 ตลาดคริปโตกลับมาผันผวนหนัก หลังจาก Bitcoin (BTC) ซึ่งเพิ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ $123,000 เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ร่วงลงมาต่ำกว่า $117,000 ปัจจุบันซื้อขายที่ราว $117,550 ลดลงกว่า 5% จากจุดสูงสุดในวันจันทร์ การปรับตัวครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงเทขายทำกำไรครั้งใหญ่ที่สุดของปี โดยนักลงทุนปลดล็อกกำไรรวมกว่า $3.5 พันล้านดอลลาร์ภายใน 24 ชั่วโมง
ข้อมูลจาก Glassnode ระบุว่าผู้ถือระยะยาว (Long-Term Holders) ซึ่งถือครอง BTC มานานกว่า 155 วัน เป็นกลุ่มหลักที่เทขาย โดยคิดเป็น 56% ของการทำกำไรทั้งหมด มูลค่ากว่า $1.96 พันล้านดอลลาร์ ความผันผวนนี้เกิดขึ้นหลัง BTC พุ่งจาก $108,000 สู่ $123,000 อย่างรวดเร็ว สร้างช่องว่างอุปทาน (Supply Gap) ระหว่าง $110,000–$116,000 ทำให้ตลาดเปราะบางต่อแรงขายกดราคา
ภาพ ราคา BTC ที่พุ่งจาก $108,000 สู่ $123,000 อย่างรวดเร็ว จาก tradingview
แรงเทขายยังสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของกิจกรรมวาฬ โดยมีการโอน BTC มูลค่ามหาศาลเข้า Binance รวมกว่า 1,800 BTC ในวันจันทร์ และธุรกรรมขนาดใหญ่ (มากกว่า $1 ล้าน) คิดเป็น 35% ของอินโฟลว์ Bitcoin บนแพลตฟอร์มเดียว สัญญาณนี้สะท้อนว่าผู้เล่นรายใหญ่กำลังล็อกกำไร หรือเตรียมกลยุทธ์ใหม่ในสภาวะตลาดที่ผันผวน
เหรียญอื่น ๆ ก็ไม่รอดแรงกดดัน Ethereum (ETH) หลุดแนวต้าน $3,000 หลังจากทดสอบระดับสูงสุดนับตั้งแต่กุมภาพันธ์ โดยราคาปัจจุบันอยู่ต่ำกว่า $2,975 ซึ่งอาจเสี่ยงหลุดโซน $2,820 หากแรงขายต่อเนื่อง ขณะที่ XRP ดิ่งจาก $3.02 ลงมา $2.78 ลดกว่า 8% หลังเจอแรงขายก่อนการเปิดตัว ProShares XRP Futures ETF ในวันที่ 18 กรกฎาคม นักลงทุนสถาบันปรับพอร์ตท่ามกลางความไม่ชัดเจนด้านกฎระเบียบ ส่วน Dogecoin (DOGE) ร่วงหนักสุดในกลุ่มใหญ่ ดิ่ง 10% จาก $0.21 เหลือ $0.18 พร้อมปริมาณซื้อขายพุ่งแตะ 735 ล้านและ 704 ล้านในสองจุดหลัก เกินค่าเฉลี่ยรายวันอย่างมาก
ภาพ ราคา Dogecoin จาก tradingview
ภาพ ราคา XRP จาก tradingview
ภาพ ราคา ETH จาก tradingview
การปรับฐานนี้ยังทำให้เกิดการล้างพอร์ต (Liquidation) มหาศาลกว่า $675 ล้านใน 24 ชั่วโมง โดยฝั่ง Long โดนหนักสุดคิดเป็น $406 ล้าน ในจำนวนนี้ BTC เพียงอย่างเดียวถูกปิดสัญญามากถึง $333 ล้าน ขณะที่ ETH โดน $113 ล้าน และ XRP $36 ล้าน
ภาพ Liquidations ของ Bitcoin จาก Coinglass.com
ปัจจัยกดดันยังรวมถึงความไม่แน่นอนด้านนโยบายการเงินสหรัฐฯ โดยตลาดรอข้อมูลเงินเฟ้อเพื่อคาดการณ์ท่าทีของ Fed ซึ่งคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะเร่งขึ้นเพราะผลกระทบจากภาษีนำเข้า ขณะที่อัตราดอกเบี้ยอาจทรงตัวสูงกว่าที่ตลาดคาด การวิจารณ์ต่อเนื่องของประธานาธิบดี Donald Trump ต่อ Jerome Powell ประธาน Fed ที่เรียกร้องให้ลดดอกเบี้ยเหลือ 1% ยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนในสินทรัพย์เสี่ยง
แม้ตลาดเผชิญแรงขายหนัก แต่นักวิเคราะห์หลายรายยังคงมองบวกในระยะกลางถึงปลายปี Ryan Lee จาก Bitget ระบุว่า “เส้นทางสู่ $150,000 ภายในไตรมาส 3 ยังเป็นไปได้” โดยได้รับแรงหนุนจากกระแส ETF, ความต้องการลงทุนของสถาบัน และภาวะค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนลง Standard Chartered ยังคงคาดการณ์ว่า BTC อาจแตะ $200,000 ภายในสิ้นปี ขณะที่ Cathie Wood จาก Ark Invest คงเป้าหมายสูงสุดที่ $1,000,000 ใน 5 ปี
การฟื้นตัวของตลาดคริปโตในปีนี้จะขึ้นอยู่กับการรักษาระดับแนวรับสำคัญของ BTC ที่ $108,000 และความชัดเจนด้านกฎระเบียบ รวมถึงการนำผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง ETF เข้าสู่ตลาด หากสามารถยืนเหนือจุดนี้ได้ โครงสร้างตลาดกระทิงยังไม่พัง และการปรับฐานครั้งนี้อาจเป็นเพียงจังหวะพักเพื่อสร้างฐานใหม่ก่อนขึ้นรอบใหญ่.
ที่มา : tradingview