ในช่วงที่ตลาดคริปโตยังคงผันผวนทั้งจากปัจจัยเศรษฐกิจโลกและการแข่งขันด้านนวัตกรรม โปรเจกต์คริปโตจำนวนมากต่างเร่งสร้างมูลค่าและขยายการใช้งานเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ทั่วโลก เดือนกันยายน 2025 จึงกลายเป็นอีกหนึ่งเดือนที่น่าสนใจ เพราะมันเป็นเดือนที่ว่ากันว่าเป็นเดือนที่ตลาดคริปโตทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ที่สุดแต่จะเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่
บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจว่าโปรเจกต์ใดบ้างที่ทำเงินได้สูงสุด 10 อันดับแรก รวมถึงปัจจัยเบื้องหลังความสำเร็จของโปรเจกต์เหล่านี้
อันดับ 1: Tether ราชาแห่ง Stablecoin
Tether ผู้ออกเหรียญ Stablecoin อันดับหนึ่งของโลก ( USDT) ยังคงยืนหนึ่งด้วยรายได้มหาศาลกว่า 646.5 ล้านดอลลาร์ในเดือนนี้ จุดแข็งของ Tether คือการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยสำหรับนักลงทุนในช่วงตลาดผันผวน
รายได้หลักของบริษัทมาจากการนำเงินทุนสำรองมากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ไปลงทุนในพันธบัตรสหรัฐฯ และตราสารหนี้ระยะสั้นที่ให้ดอกเบี้ยสูง ทำให้ Tether ได้รับผลตอบแทนมหาศาลจากการลงทุน บวกกับค่าธรรมเนียมการออกและไถ่ถอน USDT ที่เติบโตต่อเนื่อง สะท้อนความต้องการใช้งาน Stablecoin ที่ยังคงแข็งแกร่ง
อันดับ 2: Circle คู่แข่งที่น่าเกรงขาม
Circle ผู้ออกเหรียญ Stablecoin USDC ทำรายได้อันดับสองด้วยตัวเลข 225 ล้านดอลลาร์ ในเดือนกันยายน รายได้ของ Circle มาจากแหล่งเดียวกับ Tether คือดอกเบี้ยจากสินทรัพย์สำรองที่นำไปลงทุน แต่จุดขายที่ทำให้ USDC แตกต่างคือการปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเข้มงวด
Circle มีการเปิดเผยรายงานสำรองทุกเดือนผ่านบริษัทสอบบัญชีชั้นนำ และแยกเงินสำรองออกจากเงินดำเนินงานอย่างชัดเจน ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือสำหรับนักลงทุนสถาบันและองค์กรที่ต้องการความมั่นคง การที่สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่เริ่มยอมรับ USDC มากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อันดับ 3: Hyperliquid เบอร์ 1 แห่งวงการ Perp-DEX
Hyperliquid คือโปรเจกต์ Perp-DEX หรือกระดานเทรดฟิวเจอร์สคริปโตแบบกระจายศูนย์ สร้างรายได้กว่า 90.65 ล้านดอลลาร์จากค่าธรรมเนียมการเทรดบนแพลตฟอร์ม
จุดเด่นของ Hyperliquid คือ การเสนอสัญญา Perpetual Futures ที่มาพร้อมกับประสบการณ์การใช้งานเหมือน CEX แต่ยังให้สิทธิการเป็นเจ้าของสินทรัพย์ของตัวเองระดับ Decentralized
อันดับ 4: Pump.fun เจ้าแห่งวงการเหรียญมีม
Pump.fun แพลตฟอร์มที่เปิดให้ผู้ใช้สร้างและซื้อขายเหรียญมีมได้อย่างง่ายดายบนเครือข่าย Solana ทำรายได้กว่า 60.15 ล้านดอลลาร์มาจากค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากการเปิดตัวเหรียญมีม และธุรกรรมต่างๆ
จุดเด่นของโปรเจกต์นี้ คือการเป็นผู้บุกเบิกในการลดขั้นตอนยุ่งยากในการสร้างเหรียญคริปโต ทำให้ใครก็สามารถสร้างเหรียญมีมของตัวเองได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที
อันดับ 5: Axiom Pro คู่แข่ง Perp-DEX
Axiom Pro เป็นอีกหนึ่ง Perp-Dex เจ้าตลาดบนเชน Solana ที่สร้างรายได้กว่า 46.86 ล้านดอลลาร์ แม้จะไม่ได้รับความสนใจจากสื่อมากนัก แต่โปรเจกต์นี้ก็มียูทีลีตี้จริง และสามารถทำรายได้สูงอย่างต่อเนื่อง
อันดับ 6: Jupiter ราชาการรวบรวมสภาพคล่อง
Jupiter ผู้รวบรวมสภาพคล่อง (Liquidity Aggregator) อันดับต้นๆ บนเครือข่าย Solana ที่สร้างรายได้กว่า 24.18 ล้านดอลลาร์ จุดเด่นของ Jupiter คือการค้นหาราคาที่ดีที่สุดจากทุกแพลตฟอร์ม DEX ในครั้งเดียว
อันดับ 7: EdgeX
EdgeX อีกหนึ่ง Perp-DEX ประสิทธิภาพสูง ที่สร้างรายได้กว่า 20.46 ล้านดอลลาร์ ในเดือนกันยายน จุดเด่นของโปรเจกต์นี้คือ ระบบการให้รางวัลที่ดึงดูดนักลงทุนเข้ามามีส่วนร่วมในระบบอย่างต่อเนื่อง
อันดับ 8: Sky การเกิดใหม่ของตำนาน
Sky คือชื่อใหม่ของโปรเจกต์ DeFi ในตำนานอย่าง MakerDAO ที่มุ่งเน้นการให้บริการด้าน DeFi ที่หลากหลาย พวกเขาทำรายได้ในเดือนนี้กว่า 19.54 ล้านดอลลาร์
รายได้ของโปรเจกต์มาจากบริการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการให้กู้ยืม การออม หรือการทำ Staking จุดขายคือการเป็นแพลตฟอร์มแบบครบวงจรที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุน
อันดับ 9: Phantom
Phantom กระเป๋าเงินคริปโตยอดฮิตบนเครือข่าย Solana ทำรายได้สูงถึง 18.22 ล้านดอลลาร์ รายได้หลักมาจากการเป็นแอปฯ ที่รวม Wallet, DEX, NFT marketplace และ DeFi protocols ไว้ในที่เดียว
อันดับ 10: Aerodrome ดาวรุ่งบนเชน Base
Aerodrome คือ Decentralized Exchange (DEX) บนเครือข่าย Base ที่สร้างรายได้ 15.67 ล้านดอลลาร์ จุดขายของ Aerodrome คือการเป็นแพลตฟอร์มที่เติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นส่วนสำคัญของระบบนิเวศ Base โดยมีสภาพคล่องสูงและค่าธรรมเนียมที่จูงใจนักลงทุนจำนวนมาก
สรุป
รายชื่อ Top 10 เหล่านี้ ได้เผยให้เห็นโปรเจกต์ที่มีผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานคริปโตอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่อาศัยกระแสของตลาดเพียงอย่างเดียว และที่สำคัญคือ โปรเจกต์เหล่านี้สามารถทำเงินได้จริง
การครองตำแหน่งผู้นำในแง่รายได้ของ Tether และ Circle แสดงให้เห็นว่า ธุรกิจ Stablecoin ยังคงเป็น “เครื่องพิมพ์เงิน” ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกคริปโต ขณะเดียวกันการมาถึงของ Hyperliquid ที่สร้างรายได้ขึ้นมาอยู่ที่อันดับที่ 3 ทั้งที่เป็นโปรเจกต์หน้าใหม่ สะท้อนให้เห็นถึงกระแส Perp-DEX ที่กำลังมีการเติบโตอย่างรวดเร็วและน่าจับตามอง