<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

13 เหรียญคริปโตที่ขุดได้จากคอมบ้าน ฉบับจับมือทำ คนไม่เก่งคอมก็ทำได้!

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ใครว่าขุดคริปต้องมีคอมเทพ ๆ  วันนี้เราจะมาสอนวิธีขุดเหรียญคริปโตที่คุณสามารถทำได้จากคอมพิวเตอร์ที่บ้าน ! แบบที่ไม่ได้เรียนคอมฯ มา ก็สามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ  รับรองอ่านจบ ขุดคริปโตเป็นแน่นอน

ทำความเข้าใจก่อนขุด ทำไมบิทคอยน์ขุดไม่ได้แล้ว ?

ที่มาภาพ : medium

ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าในยุคแรก ๆ ของ Bitcoin ใครที่มีคอมพิวเตอร์ที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็น CPU หรือการ์ดจอ ก็สามารถขุดบิทคอยน์ได้ไม่ยาก เพราะค่าความยาก (difficulty) บนเครือข่ายบิทคอยน์ช่วงแรกนั้นยังต่ำ และมีนักขุดเพียงไม่กี่คน แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผู้คนแห่กันเข้ามาขุดมากขึ้น ระบบของ Bitcoin ถูกออกแบบมาให้เพิ่มระดับค่าความยากขึ้นอัตโนมัติตามผู้เข้าร่วม เพื่อรักษาความสมดุลให้การสร้างบล็อกใหม่เกิดขึ้นทุก 10 นาทีเหมือนเดิม ทำให้เครื่องบ้าน ๆ ไม่สามารถตามทันได้อีกต่อไป

การมาของเครื่องขุด ASIC ยิ่งทำให้ช่องว่างกว้างขึ้นไปอีก เพราะ ASIC ถูกออกแบบมาเพื่อขุด Bitcoin โดยเฉพาะ โดยมีกำลังขุดที่เหนือกว่าการ์ดจอหลายสิบเท่า ส่งผลให้การใช้คอมบ้าน หรือโน้ตบุ๊คขุด Bitcoin กลายเป็นเรื่องที่ “สู้ไม่ไหว” ในทันที

นอกจากนี้ การขุด Bitcoin ต้องเปิดเครื่องทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกินไฟมหาศาล ปัจจุบันค่าไฟในหลายประเทศ รวมถึงไทย มีราคาสูงจนทำให้รายได้จากการขุดไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่เสียไป ต่างจากเหมืองขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในประเทศที่มีไฟฟ้าราคาถูก ทำให้พวกเขาได้เปรียบในด้านต้นทุน

เมื่อรวมทุกปัจจัยเข้าด้วยกัน การขุด Bitcoin จึงกลายเป็นธุรกิจระดับอุตสาหกรรม มีการลงทุนสร้างศูนย์ข้อมูล (Data Center) พร้อมเครื่องขุด ASIC นับหมื่น ๆ ตัว ระบบระบายความร้อน และไฟฟ้าราคาพิเศษ ส่งผลให้คนทั่วไปที่ใช้คอมพิวเตอร์บ้านไม่มีโอกาสแข่งขันได้อีกต่อไป

ดังนั้น การขุด Bitcoin ที่บ้านในปี 2025 แทบจะเป็นไปไม่ได้ ทั้งในเชิงเทคนิคและความคุ้มค่า หากอยากลองสัมผัสประสบการณ์การขุดจริง ๆ นักขุดรายย่อยจึงมักเลือกเหรียญอื่นที่ยัง “เป็นมิตรกับ CPU/ GPU” อย่าง Ethereum Classic (ETC), Dogecoin (DOGE) หรือ Monero (XMR) ที่ยังสามารถขุดได้ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไป

1. Dogecoin (DOGE) – เหรียญมีมที่อีลอน มัสก์หลงรัก

ที่มาภาพ : watcher.guru

ข้อมูลพื้นฐาน:

  • Dogecoin มีมูลค่าตลาด: 21.8 พันล้านดอลลาร์
  • ปริมาณซื้อขายต่อวัน : 2.5 พันล้านดอลลาร์+

แม้จะเริ่มต้นจากมีม แต่ตอนนี้ Dogecoin กลายเป็นเหรียญที่มีฐานผู้ใช้งานเยอะมาก ๆ จุดเด่นคือ Dogecoin ออกแบบมาให้มีเหรียญเพิ่มขึ้นทุกปี ไม่เหมือนบิทคอยน์ที่มีจำกัดจำนวน

วิธีขุด Dogecoin แบบละเอียด:

ขั้นตอนที่ 1: เตรียมกระเป๋าเงิน

  • ดาวน์โหลด Dogecoin Core Wallet จากเว็บไซต์ทางการ
  • หรือเลือกใช้ online wallet ที่แนะนำในเว็บไซต์ Dogecoin

ขั้นตอนที่ 2: เลือกวิธีขุด

แบบที่ใช้ CPU (ช้าแต่เริ่มได้ง่าย) :

  • ดาวน์โหลดโปรแกรม CPU Miner
  • ติดตั้งและเปิดโปรแกรม
  • ใส่ที่อยู่กระเป๋าเงินของคุณ
  • กด Start Mining

แบบที่ใช้ GPU (เร็วกว่ามาก!):

  • ควรใช้การ์ดจอ AMD หรือ Nvidia
  • ดาวน์โหลด cgminer (สำหรับ AMD) หรือ cudaminer (สำหรับ Nvidia)
  • ตั้งค่าการ์ดจอให้ทำงานกับโปรแกรม
  • แล้วเริ่มขุดได้เลย

ขั้นตอนที่ 3 : เข้า Mining Pool (แนะนำมาก!)

  • สมัครที่ MultiPool หรือ pool อื่น ๆ
  • ได้เงินเร็วกว่าขุดคนเดียวเยอะ
  • สามารถแบ่งกำลังขุดร่วมกับคนอื่น

ขั้นตอนที่ 4: ขายเหรียญ

  • เมื่อขุดได้แล้วสามารถขายเหรียญ Dogecoin ที่เว็บเทรดคริปโต เช่น Binance 
  • ใครไม่เก่งเทรด ลองใช้ crypto trading bot ดูก็ได้

2. Pi Coin (PI) – ขุดจากมือถือได้!

ที่มาภาพ : bittime

ข้อมูลพื้นฐาน

  • Pi Coin มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 9.77 พันล้านดอลลาร์
  • Pi Coin  มีปริมาณซื้อขายต่อวันอยู่ที่  350 ล้านดอลลาร์+

Pi Coin ถือเป็นเหรียญที่พิเศษมาก ๆ เพราะขุดจากมือถือได้เลย โดยไม่กินไฟ ไม่ต้องมีเครื่องคอมเทพ ๆ 

วิธีขุด Pi Coin 

ขั้นตอนที่ 1: ดาวน์โหลดแอป

  • หา “Pi Network” ใน App Store (iPhone) หรือ Google Play (Android)
  • ดาวน์โหลดฟรี

ขั้นตอนที่ 2: สมัครสมาชิก

  • เปิดแอปแล้วทำตามคำแนะนำ
  • ใส่ข้อมูลให้ครบ
  • ตั้งรหัสผ่าน

ขั้นตอนที่ 3: เริ่มขุด

  • กดที่ไอคอนฟ้าผ่า (lightning bolt)
  • แค่นี้ก็ขุดได้แล้ว!
  • ทุก ๆ 24 ชั่วโมง ต้องมากดขุดใหม่

เคล็ดลับ: อยากได้เหรียญ Pi Coin เยอะ ๆ

  • ต้องชวนเพื่อนเข้าเน็ตเวิร์ค
  • สร้าง Security Circle
  • ยิ่งมีคนเยอะ ก็จะยิ่งขุดได้เยอะขึ้น

3. Ethereum Classic (ETC) – น้องชายของ Ethereum

ที่มาภาพ : investorplace

ข้อมูลพื้นฐาน:

  • Ethereum Classic (ETC) มีมูลค่าตลาด 4.35 พันล้านดอลลาร์
  • Ethereum Classic (ETC) มี ปริมาณซื้อขายต่อวัน 300 ล้านดอลลาร์

ตอนที่ Ethereum เปลี่ยนไปใช้ Proof of Stake (ทำให้ขุดไม่ได้แล้ว) คนที่เคยขุด ETH ก็หันมาขุด ETC กันใหญ่

วิธีขุด Ethereum Classic

ขั้นตอนที่ 1: เตรียมอุปกรณ์

  • ใช้เครื่อง ASIC ได้ แต่คอมที่บ้านก็สามารถขุดได้
  • แนะนำให้ใช้การ์ดจอที่แรงหน่อย

ขั้นตอนที่ 2: ดาวน์โหลดโปรแกรม

  • เข้าไปที่เว็บไซต์ Ethereum Classic
  • ดูรายชื่อ mining software ที่แนะนำ
  • เลือกที่เหมาะกับเครื่องของคุณ

ขั้นตอนที่ 3: ตั้งค่าและเริ่มขุด

  • ติดตั้งโปรแกรม
  • ตั้งค่าที่อยู่กระเป๋าเงิน
  • เริ่มขุดได้เลย

ขั้นตอนที่ 4: ขายเหรียญ Ethereum Classic (ETC) 

  • ขายเหรียญ Ethereum Classic (ETC) ได้ที่ HitBTC, Binance หรือ Huobi Global

4. Monero (XMR) – ราชาแห่งความเป็นส่วนตัว

ที่มาภาพ : cryptocoin

ข้อมูลพื้นฐาน

  • Monero (XMR) มีมูลค่าตลาด อยู่ที่ 2.5 พันล้านดอลลาร์
  • Monero (XMR) ทีปริมาณซื้อขายต่อวัน 40-100 ล้านดอลลาร์

Monero เป็นเหรียญที่เน้นความเป็นส่วนตัว เป็นหลัก โดยมีจุดเด่นสำคัญคือ การถูกออกแบบมาให้ต้านทานเครื่อง ASIC ทำให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์บ้าน ยังสามารถร่วมขุดเหรียญ เพื่อแข่งขันได้อย่างเท่าเทียม

วิธีขุด Monero

ขั้นตอนที่ 1: ติดตั้งกระเป๋าเงิน

  • ดาวน์โหลด Monero GUI Client (แนะนำตัวนี้)
  • ติดตั้งตามคำแนะนำ
  • เปิดโปรแกรมและสร้างกระเป๋าใหม่

ขั้นตอนที่ 2: เลือก Mining Software

  • MultiMiner เป็นตัวที่ใช้ง่ายที่สุด
  • หรือจะเลือกโปรแกรมอื่นก็ได้
  • ดาวน์โหลดและติดตั้ง

ขั้นตอนที่ 3: ตั้งค่าการขุด

  • เปิด MultiMiner
  • เชื่อมต่อกับกระเป๋าเงิน Monero
  • เลือก Mining Pool (แนะนำ)
  • กด Start

ขั้นตอนที่ 4: ขายเหรียญ Monero (XMR) 

  • ขายเหรียญ ได้ที่เว็บเทรด Binance 

5. Zcash (ZEC) – เทคโนโลยีความเป็นส่วนตัวขั้นสูง

ที่มาภาพ : thecurrencyanalytics

ข้อมูลพื้นฐาน

  •  Zcash (ZEC)  มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 470 ล้านดอลลาร์
  •  Zcash (ZEC) มีปริมาณซื้อขายต่อวัน อยู่ที่ 40-80 ล้านดอลลาร์

Zcash (ZEC) เปิดตัวเมื่อปี 2016 เป็นเหรียญที่เน้นความเป็นส่วนตัวเหมือนกัน ใช้ Equihash algorithm ที่ต้านทาน ASIC ได้ดี

วิธีขุด Zcash

ขั้นตอนที่ 1: ติดตั้ง Blockchain

  • ดาวน์โหลด Zcash blockchain
  • ติดตั้งและรอให้ sync (อาจนานหน่อย อดทนรอนะ!)

ขั้นตอนที่ 2: สร้างกระเป๋าเงิน

  • เมื่อ sync เสร็จ ให้สร้าง wallet
  • เก็บ address ไว้ให้ดี

ขั้นตอนที่ 3: ติดตั้ง Driver การ์ดจอ

  • อัพเดต driver ให้ใหม่ที่สุด
  • สำคัญมากไม่งั้นจะช้ามาก

ขั้นตอนที่ 4: เริ่มขุด

  • ดาวน์โหลด mining software
  • ตั้งค่าตามคู่มือในเว็บไซต์
  • เริ่มขุดได้เลย

ขั้นตอนที่ 5: ขายเหรียญ Zcash (ZEC) 

  • ขายเหรียญ Zcash (ZEC) ได้ที่เว็บเทรด Binance, Huobi Global หรือ Bitfinex

6. Ravencoin (RVN) – เหรียญที่เน้นไปที่การโอนสินทรัพย์ดิจิทัล

ที่มาภาพ : hostmerchantservices

ข้อมูลพื้นฐาน

  • Ravencoin (RVN)  มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 350 ล้านดอลลาร์
  • Ravencoin (RVN)  มีปริมาณซื้อขายต่อวันอยู่ที่ 50 ล้านดอลลาร์

Ravencoin (RVN) คือเหรียญที่พัฒนาต่อยอด (fork) มาจาก Bitcoin แต่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยมี Block Reward ที่เร็วกว่า (เพียง 1 นาที) และมีความสามารถเพิ่มเติมในการ สร้างและโอนสินทรัพย์ดิจิทัล

วิธีขุด Ravencoin

ขั้นตอนที่ 1: เตรียมการ์ดจอ

  • ใช้ algorithm KAWPOW 
  • การ์ดจอระดับ consumer ก็ขุดได้แล้ว

ขั้นตอนที่ 2: ดาวน์โหลด Mining Software

ขั้นตอนที่ 3: ตั้งค่าและเริ่มขุด

  • ติดตั้งโปรแกรม
  • ใส่ wallet address
  • เข้า mining pool
  • เริ่มขุด

ขั้นตอนที่ 4: ขายเหรียญ Ravencoin (RVN)  

  • ขายเหรียญ Ravencoin (RVN)  ได้ที่เว็บเทรด Binance, Huobi Global หรือ OKX

7. Bitcoin Gold (BTG) – น้องชายของ Bitcoin

ที่มาภาพ : blogtienao

ข้อมูลพื้นฐาน

  • Bitcoin Gold (BTG) มีมูลค่าตลาด อยู่ที่ 785 ล้านดอลลาร์
  • Bitcoin Gold (BTG) มีปริมาณซื้อขายต่อวัน อยู่ที่ 40 ล้านดอลลาร์

Bitcoin Gold (BTG) เปิดตัว เมื่อปี 2017 แยกออกมาจาก Bitcoin แม้โปรเจกต์จะเงียบไปนาน แต่ก็ยังมีคนซื้อขาย Bitcoin Gold (BTG) กันอยู่

วิธีขุด Bitcoin Gold:

ขั้นตอนที่ 1: ทำความรู้จัก Algorithm

  • ใช้ Equihash-BTG (หรือ Zhash)
  • ราคามักจะเคลื่อนไหวตาม Bitcoin

ขั้นตอนที่ 2: ติดตั้ง Mining Software

ขั้นตอนที่ 3: เริ่มขุด

  • ตั้งค่าตามคู่มือ
  • เข้า mining pool
  • เริ่มต้นขุดได้เลย

ขั้นตอนที่ 4: ขายเหรียญ Bitcoin Gold (BTG) 

  • ขายเหรียญ Bitcoin Gold (BTG) ได้ที่เว็บเทรด Binance, Bitfinex, HitBTC หรือ Huobi Global

8. Horizen (ZEN) – มุ่งเน้นความปลอดภัยของข้อมูลสูงสุด 

ที่มาภาพ : iq.wik

ข้อมูลพื้นฐาน

  • Horizen (ZEN) มีมูลค่าตลาด อยู่ที่ 202 ล้านดอลลาร์
  • Horizen (ZEN) มีปริมาณซื้อขายต่อวัน อยู่ที่ 10-12 ล้านดอลลาร์

Horizen (ZEN) เปิดตัวในปี 2017 โดยมุ่งเน้นที่ความเป็นส่วนตัว (Privacy) และ ความสมบูรณ์ของข้อมูล (Data Integrity) เป็นหลัก ใช้ระบบ Proof of Work แบบ Equihash ทำให้ผู้ใช้สามารถขุดด้วยการ์ดจอ (GPU) ได้

วิธีขุด Horizen

ขั้นตอนที่ 1: ดาวน์โหลด Wallet

ขั้นตอนที่ 2: หา Mining Software

  • ดูข้อมูลที่เว็บไซต์ทางการ
  • เลือกโปรแกรมที่รองรับ GPU ของคุณ

ขั้นตอนที่ 3: เริ่มขุด

  • ติดตั้งและตั้งค่า
  • เข้า mining pool
  • เริ่มขุดได้เลย!

ขั้นตอนที่ 4: ขายเหรียญ Horizen (ZEN) 

  • ขายเหรียญ Horizen (ZEN) ได้ที่เว็บเทรด Binance, HitBTC หรือ Huobi Global

9. Bytecoin (BCN) – ขุดแบบ Solo ได้!

ที่มาภาพ : coincentral

ข้อมูลพื้นฐาน

  • Bytecoin (BCN) มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 6.8 ล้านดอลลาร์
  • Bytecoin (BCN) มีปริมาณซื้อขายต่อวัน อยู่ที่ 5,000-10,000 ดอลลาร์

Bytecoin (BCN) เป็นเหรียญที่เน้นความไม่เปิดเผยตัวตน จุดเด่นคือ ออกแบบมาให้ขุดแบบ solo (คนเดียว) ได้ง่าย ๆ

วิธีขุด Bytecoin

ขั้นตอนที่ 1: ติดตั้ง Wallet

  • ดาวน์โหลด Bytecoin wallet
  • รันโปรแกรมบนคอมพิวเตอร์

ขั้นตอนที่ 2 : Sync Blockchain

  • รอให้โปรแกรม sync กับ blockchain (อาจนานหน่อย)
  • สร้างกระเป๋าเงินใหม่

ขั้นตอนที่ 3: เริ่มขุดแบบ Solo

  • ใส่คำสั่ง “begin mining”
  • ตั้ง wallet address เป็นผู้รับ
  • เริ่มขุดได้เลย

หมายเหตุ: ขุดคนเดียวจะช้า แนะนำให้เข้า mining pool

กรณีแบบที่ใช้ Mining Pool

  • สมัครที่ bytecoin-pool.org
  • ดาวน์โหลด xmrig
  • ตั้งค่าตาม pool
  • ได้เงินเร็วกว่ามาก

กรณีแบบที่ใช้ GPU

  • ดาวน์โหลด software สำหรับ GPU
  • ตั้งค่ายุ่งกว่าหน่อย แต่เร็วกว่าเยอะ

ขั้นตอนที่ 4: ขายเหรียญ Bytecoin (BCN)

  • ขายเหรียญ Bytecoin (BCN) ได้ที่ HitBTC หรือ Poloniex

10. Beam (BEAM) – เหรียญที่ให้ความเป็นส่วนตัวในระดับสูงสุด

ที่มาภาพ : coinpayments

ข้อมูลพื้นฐาน

  • Beam (BEAM) มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 17 ล้านดอลลาร์
  • Beam (BEAM) มีปริมาณซื้อขายต่อวันอยู่ที่ 100,000-150,000 ดอลลาร์

Beam (BEAM)  ใช้ MimbleWimble Algorithm ซึ่งเหมาะสำหรับการขุดที่บ้าน (Home Mining) อย่างมาก และใช้ Hashii Algorithm เพื่อรองรับการขุดด้วย GPU (GPU Mining)

วิธีขุด Beam

ขั้นตอนที่ 1: ดาวน์โหลด Wallet

  • ดาวน์โหลด Desktop Wallet ตาม OS ของคุณ
  • ข้อควรระวัง! antivirus อาจจับ mining software ว่า เป็นไวรัส
  • ต้อง exclude มันออกไปก่อน ไม่งั้นขุดเหรียญไม่ได้

ขั้นตอนที่ 2 : Sync Blockchain

  • รอให้ blockchain ดาวน์โหลดเสร็จ
  • อาจใช้เวลาดาวน์โหลดนาน อดทนรอ

ขั้นตอนที่ 3: ตั้งค่าการขุด

  • เปิด “Run Local Node”
  • ตั้งจำนวน mining threads ให้มากกว่า 0

ขั้นตอนที่ 4: สร้าง Permanent Address (ขั้นตอนนี้สำคัญมาก!)

  • Beam ใช้ระบบ expiring address (ซึ่งอาจหมดอายุได้)
  • ถ้าไม่ทำขั้นตอนนี้ เงินจะหายได้
  • ไปที่แท็บ “Receive”
  • สร้าง address ใหม่
  • ตั้งค่าให้ “Never Expire”
  • ใช้ address นี้ สำหรับขุดเหรียญ

ขั้นตอนที่ 5: เริ่มขุด

  • ใส่ permanent address ที่สร้างไว้
  • กด Start Mining

ขั้นตอนที่ 6: ขายเหรียญ Beam (BEAM) 

  • ขายเหรียญ Beam (BEAM) ได้ที่ Binance หรือ Bitforex

11. Vertcoin (VTC) – ขุดได้ในคลิกเดียว

ที่มาภาพ : simpleswap

ข้อมูลพื้นฐาน:

  • Vertcoin (VTC) มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 3.6 ล้านดอลลาร์
  • Vertcoin (VTC) มีปริมาณซื้อขายต่อวัน อยู่ที่ 15,000 ดอลลาร์+

Vertcoin (VTC) เปิดตัวในปี 2014 โดยมีจุดประสงค์หลัก เพื่อต่อต้านอิทธิพลของเครื่องขุด ASIC และจุดเด่นของมันคือ เป็นเหรียญที่ขุดง่ายที่สุด ในบรรดาเหรียญที่กล่าวถึงในบทความนี้

วิธีขุด Vertcoin 

ขั้นตอนที่ 1: ดาวน์โหลด Mining Software

ขั้นตอนที่ 2: เริ่มขุด

  • กดแค่ปุ่มเดียวจบ ไม่ต้องตั้งค่าอะไรเลย

ขั้นตอนที่ 3: เข้า Mining Pool

  • แนะนำให้เข้า pool เพื่อกดเพิ่มรายได้
  • ตั้งค่าง่าย ๆ ในโปรแกรม

ขั้นตอนที่ 4: ขายเหรียญ Vertcoin (VTC) 

  • ขายเหรียญ Vertcoin (VTC) ได้ที่ Bittrex หรือ UPBit

เหมาะกับมือใหม่ที่อยากลองขุดเป็นครั้งแรก

12. Grin (GRIN) – Hard Fork ทุก 6 เดือน

ที่มาภาพ : herominers

ข้อมูลพื้นฐาน:

  • Grin (GRIN) มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 6.3 ล้านดอลลาร์
  • Grin (GRIN) มีปริมาณซื้อขายต่อวันอยู่ที่ 20,000-50,000 ดอลลาร์

Grin (GRIN) เปิดตัวในปี 2019 โดยมุ่งเน้นที่ ความเป็นส่วนตัว (Privacy) และ ความสามารถในการปรับขยายขนาด (Scalability)

เหรียญนี้ใช้ MimbleWimble Algorithm เหมือนกับเหรียญ Beam แต่มีจุดเด่นสำคัญคือ การทำ Hard Fork ทุก 6 เดือน เพื่อต่อต้านเครื่องขุด ASIC โดยเฉพาะ

วิธีขุด Grin

ขั้นตอนที่ 1: ติดตั้ง Blockchain

ขั้นตอนที่ 2: Sync และสร้าง Wallet

  • รอให้ blockchain sync เสร็จ
  • เชื่อมต่อ node กับ wallet
  • สร้าง wallet โดยรันไฟล์ ในโฟลเดอร์

ขั้นตอนที่ 3: ตั้งค่าการ์ดจอ

  • แนะนำให้ใช้ Nvidia (ดีกว่า AMD สำหรับ Grin)
  • ต้องมี RAM อย่างน้อย 5.5 GB
  • ตั้งค่าการ์ดจอให้ทำงานกับ wallet

ขั้นตอนที่ 4: เลือก POW Algorithm

  • ตั้งค่า เป็น Cuckaroo POW
  • นี่คือ version ที่รองรับ GPU mining

ขั้นตอนที่ 5: เริ่มขุด

  • เริ่มต้นขุดเหรียญ Grin (GRIN) ได้เลย!

ขั้นตอนที่ 6: ขายเหรียญ

  • ขายเหรียญ Grin (GRIN) ได้ที่ Bittrex หรือ HitBTC

13. AEON (AEON) – น้องชายของ Monero

ที่มาภาพ : coinbureau

ข้อมูลพื้นฐาน:

  •  AEON (AEON) มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 1.3 ล้านดอลลาร์
  •  AEON (AEON) มีปริมาณซื้อขายต่อวัน อยู่ที่ 50-220 ดอลลาร์

AEON (AEON) เป็นเหรียญที่ Fork มาจาก Monero โดยใช้ CryptoNote protocol และ CryptoNight-Lite algorithm ผสานกับเทคนิค Ring Signatures เพื่อทำให้ ไม่สามารถตามรอยธุรกรรมได้

วิธีขุด AEON

ขั้นตอนที่ 1: เตรียมอุปกรณ์

  • ใช้ CPU บน Windows ได้
  • หรือใช้การ์ดจอ AMD/Nvidia

ขั้นตอนที่ 2: ดาวน์โหลด Mining Software

ขั้นตอนที่ 3: เริ่มขุด

  • ติดตั้งและตั้งค่า
  • เริ่มขุดเหรียญ AEON (AEON)  ได้เลย

ขั้นตอนที่ 4: ขายเหรียญ

  • ขายเหรียญ AEON (AEON) ได้ที่ Bittrex หรือ HitBTC

คำนวณกำไร ขุดเหรียญแล้วได้เงินเท่าไหร่ ?

ที่มาภาพ : coinpaper

ข้อมูลพื้นฐานที่ต้องรู้

1. เรื่อง Hashrate

  • Hashrate คือ ความเร็วในการขุด
  • วัดเป็น MH/s (Million Hashes per Second)
  • CPU จะช้ากว่า วัดเป็น TH/s (Thousand Hashes per Second)
  • GPU แรงกว่า วัดเป็น MH/s
  • ยิ่ง hashrate สูง ยิ่งขุดได้เร็ว ได้เงินเยอะ

2. การ์ดจอที่นิยม

  • NVIDIA GeForce RTX 3090 (แรงสุด แต่แพงสุด)
  • NVIDIA GeForce RTX 3080 (ดีพอ ราคาพอดี)
  • ราคาตั้งแต่ 600-2,000 ดอลลาร์+

3. ปัจจัยที่ส่งผลต่อกำไร

ราคาเหรียญ

  • คริปโตผันผวนมาก
  • เหรียญที่กำลัง pump จะทำกำไรได้มากกว่า
  • เหรียญที่ราคาตกจะได้กำไรน้อย

ค่าไฟ

  • ถือเป็นค่าใช้จ่ายหลัก
  • GPU ที่แรงกว่า = จะกินไฟมากกว่า
  • วัดเป็นราคาต่อ kilowatt-hour (kWh)

ราคาไฟในอเมริกา (เฉลี่ย) 

  • ค่าเฉลี่ยราคาค่าไฟในอเมริกา 16.26 เซนต์ต่อ kWh
  • ถูกที่สุดที่ North Dakota ราคา 10.21 เซนต์/kWh
  • แพงที่สุดที่ Hawaii ราคา 42.34 เซนต์/kWh

เคล็ดลับ ถ้าอยู่ประเทศที่ค่าไฟถูก จะสามารถทำกำไรได้มากกว่ามาก (โดยประเทศพม่าและประเทศอาหรับบางประเทศ มีไฟที่ราคาถูกมาก ๆ)

เครื่องมือคำนวณกำไร

WhatToMine.com  เป็นเว็บไซต์ที่นักขุดต้องมีไว้ 

  • ใส่ข้อมูลการ์ดจอของคุณ
  • ใส่ค่าไฟของคุณ
  • เว็บจะบอกว่าขุดเหรียญไหนคุ้มที่สุด
  • คำนวณกำไรโดยประมาณให้อัตโนมัติ

Case Study จริง มือโปรขุดแบบจริงจัง

ที่มาภาพ : britannica

มี Case Study จากคนที่ขุดจริง ๆ แบบเป็นธุรกิจเลย มาดูกันว่า เขาทำกันยังไง

อุปกรณ์ที่ใช้

เครื่องคอมพิวเตอร์

  • ใช้ระบบ Intel ราคาไม่แพง
  • ติด Windows 10
  • จุดสำคัญ: หา motherboard ที่รองรับ 8 GPUs ขึ้นไป
  • ใช้ Z390 chipset (รุ่น 8th/9th Gen Intel)
  • หาซื้อได้ง่ายใน Amazon

เรื่อง CPU

  • ไม่สำคัญเลย ใช้ Celeron หรือ i9 ก็ได้
  • การขุดเหรียญใช้แค่ GPU 100%
  • นี่คือจุดที่ตัดค่าใช้จ่ายได้

ข้อจำกัดของ Windows

  • Windows ไม่เสถียรถ้าใช้เกิน 8 GPUs
  • ถ้าอยากใช้มากกว่านี้ ต้องเปลี่ยนเป็น Linux

การจัดการระบบ

  • ใช้ Google Chrome remote เข้าควบคุมทุกเครื่องจากมือถือ
  • ใช้ open frame ไม่ใส่เคส
  • ติดพัดลม 120mm ระบายความร้อน
  • ที่สำคัญ ข้อควรระวัง GPU จะลดประสิทธิภาพถ้าร้อนเกินไป

ตัวเลขกำไรจริง

ที่มาภาพ : nasdaq

อุปกรณ์ที่แนะนำ

  • 8 AMD RX580s สามารถทำเงินได้ 20 ดอลลาร์/วัน (ก่อนหักค่าไฟ)
  • แนะนำเป็น 8 AMD 5700 XT เนื่องจากกินไฟเท่าเดิม แต่สามารถทำกำไรได้มากกว่า 30%

ค่าไฟ

  • ใช้ไฟประมาณ 4 ดอลลาร์/วัน/เครื่อง
  • หนึ่งเครื่องใช้ไฟ 1000 watts เท่ากับเครื่องทำความร้อน 1000 watts

กำไรจริง (กรณี 13 เครื่อง)

ช่วง Bear Market (ตลาดย่ำแย่)

  • รายได้อยู่ที่ ประมาณ 500 ดอลลาร์/เดือน
  • ค่าไฟถือเป็นปัญหาใหญ่

ช่วง Bull Market (ตลาดดี)

  • รายได้สูงสุดอยู่ที่ 17,000 ดอลลาร์/เดือน
  • ค่าไฟถือไม่ใช่ปัญหาเลย

ปัญหาที่ต้องเจอ

  1. เรื่องค่าไฟ – ยิ่ง scale up ยิ่งต้องจ่ายค่าไฟเยอะ
  2. ความร้อน – เครื่องร้อนมาก จึงต้องมีระบบระบายอากาศที่ดี
  3. พื้นที่สำหรับเครื่องขุด 13 เครื่อง จะร้อนเหมือนมีเครื่องทำความร้อน 13 เครื่อง

เคล็ดลับสำหรับมือใหม่

ที่มาภาพ : finbold

1. เริ่มต้นแบบเรียบง่าย

  • ลองขุดด้วย CPU ก่อน (แม้จะช้า)
  • ทดสอบกับการขุดเหรียญ Vertcoin หรือ Pi Coin (ง่ายที่สุด)
  • เมื่อเข้าใจ แล้วค่อยอัพเกรดเป็น GPU

2. คำนวณค่าไฟก่อนเริ่มขุด

  • เช็คราคาไฟ ในพื้นที่ของคุณ
  • ใช้ WhatToMine.com คำนวณ
  • ถ้าค่าไฟแพงกว่ากำไร ไม่ต้องขุดเหรียญนั้น

3. เข้า Mining Pool เสมอ

  • ขุดคนเดียวช้ามาก อาจไม่ได้เงินเลย เพราะโอกาสได้รางวัลคนเดียวยากมาก
  • ถ้า Pool ให้รายได้สม่ำเสมอกว่า
  • แม้จะต้องแบ่งกำไร แต่ได้กำไรจริง

4. เลือกเหรียญที่จะขุดให้เหมาะสม

สำหรับมือใหม่

  • Pi Coin – เป็นเหรียญขุดง่ายที่สุด โดยสามารถขุดได้จากมือถือ
  • Vertcoin – ขุดได้ในคลิกเดียว
  • Dogecoin – เป็นเหรียญที่มีชื่อเสียง ขายออกได้ง่าย

สำหรับคนที่มี GPU แล้ว

  • Ethereum Classic – เป็นเหรียญที่มีตลาดใหญ่
  • Ravencoin – เป็นเหรียญที่ขุดง่าย ได้ผลดี
  • Monero – เป็นเหรียญที่เสถียร มีฐานผู้ใช้

สำหรับคนที่อยากลงทุนจริงจัง

  • Zcash –  เป็นเหรียญที่มีศักยภาพ
  • Grin –  เป็นเหรียญเทคโนโลยีใหม่
  • Beam –  เป็นเหรียญที่เน้นความเป็นส่วนตัวสูง

5. อัพเดต Software เสมอ

  • Mining software จะมีอัพเดตบ่อย
  • การอัพเดตใหม่ มักจะทำให้การขุดเร็วขึ้น
  • ต้องอัพเดต GPU driver ด้วย

6. ระวังเรื่องความร้อน

  • GPU ร้อนเกิน = จะทำให้ เครื่อง GPU มีอายุสั้นลง
  • ต้องติดพัดลมเสริม
  • คอยตรวจสอบอุณหภูมิเป็นประจำ
  • ตรวจสอบอุณหภูมิให้ไม่ควรเกิน 75-80°C

7. เก็บบันทึกทุกอย่าง

  • จดบันทึกไว้ว่า ขุดได้เท่าไหร่
  • ค่าไฟเท่าไหร่
  • กำไร/ขาดทุน เท่าไหร่
  • จะได้รู้ว่าคุ้มไหมกับการขุดเหรียญนี้

8. อย่าลืมเรื่องภาษี

  • ในหลายประเทศ crypto ที่ขุดได้ ต้องเสียภาษี
  • เก็บบันทึกไว้ให้ดี
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญภาษีถ้าจำเป็น

คำเตือนสำคัญ : ระวัง Cloud Mining Scams

ที่มาภาพ : bravenewcoin

ห้ามหลงเชื่อไปขุดกับ Cloud Mining เด็ดขาด

  • Cloud Mining จะมีการสัญญาว่า จะให้ผลตอบแทนสูง
  • ให้คุณจ่ายเงินล่วงหน้าก่อน แล้วจะขุดให้
  • 99.99% เป็นมิจฉาชีพทั้งนั้น

ทำไมต้องระวัง

  • ไม่มีเครื่องขุดจริง
  • เอาเงินคนใหม่มาจ่ายคนเก่า (Ponzi scheme)
  • เมื่อไหร่ที่ไม่มีคนใหม่ จะหนีทันที
  • เงินคุณจะหายไป ตามกลับมาไม่ได้

จำไว้: กรณีที่ข้อเสนอเงื่อนไขดูดีเกินจริง มันก็จะไม่จริง

ข้อควรระวังอื่น ๆ

1. Malware ในโปรแกรมขุด

  • ดาวน์โหลดโปรแกรมเฉพาะจากเว็บไซต์ทางการเท่านั้น
  • ตรวจสอบด้วย antivirus
  • อ่าน review ก่อนติดตั้ง

2. Electricity Bills

  • ค่าไฟอาจพุ่งขึ้น แบบเห็นได้ชัด
  • อาจทำให้มิเตอร์ไฟล่มได้
  • บางที่เจ้าของบ้านไม่อนุญาตให้ทำ

3. Hardware Damage

  • GPU ทำงานหนักตลอด 24/7
  • อายุการใช้งานเครื่องจะสั้นลง
  • ต้นทุนค่าซ่อมแซมแพง

4. Noise และความร้อน

  • เครื่องขุดเสียงดังมาก
  • ทำความร้อนมาก
  • อาจทำให้ห้องร้อนจนอยู่ไม่ได้

ขุดดีไหม ? ควรเริ่มขุดเหรียญยังไง ?

ที่มาภาพ : miningstore

ข้อดีของการขุด

  • ได้ Passive Income เปิดเครื่องขุดทิ้งไว้ก็ได้เงิน 
  • ไม่ต้องเทรด ไม่ต้องมาคอยนั่งดูชาร์ททั้งวัน  
  • ได้เรียนรู้เทคโนโลยี เข้าใจ blockchain มากขึ้น 
  • ไม่ต้องลงทุนเยอะ เริ่มต้นจาก CPU ก็ได้

ข้อเสียของการขุด

  • ค่าไฟ อาจจะแพงกว่ากำไรที่ได้ 
  • Hardware เสื่อม เครื่องอายุสั้นลง 
  • เครื่องขุดเสียงดัง รบกวนการใช้ชีวิต  
  • ต้องคอยดูแล ไม่ใช่ว่าเปิดแล้วทิ้งไว้ได้เลย  
  • ความเสี่ยง จากการขุดมาพร้อมกับราคาเหรียญที่ผันผวน

การขุดคริปโตควรเริ่มต้นอย่างไร

ถ้าคุณเป็นมือใหม่มาก ๆ

  1. เริ่มจาก Pi Coin (ขุดจากมือถือ แบบไม่มีความเสี่ยง)
  2. ทดลองขุดเหรียญ Vertcoin ด้วย CPU (ง่าย ลงทุนศูนย์)
  3. ต้องเรียนรู้ระบบ ศึกษาข้อมูล

ถ้าคุณมี GPU อยู่แล้ว

  1. ทดลองขุดเหรียญ Ethereum Classic หรือเหรียญ Ravencoin
  2. คำนวณค่าไฟให้ดี
  3. เข้า Mining Pool
  4. ดูผลไป 1 เดือน

ถ้าคุณอยากลงทุนจริงจัง

  1. ศึกษาตลาดให้ดี
  2. เลือกเหรียญที่มีศักยภาพ
  3. ซื้อ GPU ที่เหมาะสม (เริ่มจาก 1-2 ตัวก่อน)
  4. คำนวณ ROI (Return on Investment) ให้ชัด
  5. Scale up ค่อย ๆ เป็นขั้นตอน

แนวทางการตัดสินใจ

กรณีคนที่จะขุดเหรียญคุ้ม

  • ค่าไฟในพื้นที่ถูก (ต่ำกว่า 3.6 บาท/หน่วย)
  • มี GPU อยู่แล้ว (ไม่ต้องซื้อใหม่)
  • พอมีเวลาดูแล
  • สนใจเรียนรู้เทคโนโลยี
  • ทำเป็นงานอดิเรก ไม่ได้หวังรวยเร็ว

ไม่ควรขุดในกรณีที่

  • ค่าไฟแพงมาก (เกิน 7.2 บาท/หน่วย)
  • ต้องซื้อ GPU ใหม่ทั้งหมด
  • ไม่มีเวลาดูแล
  • หวังรวยเร็ว
  • รับความเสี่ยงไม่ได้

คำถามที่ถามบ่อย (FAQ)

ที่มาภาพ : sectigostore

Q: ขุดแล้วจะรวยไหม ? 

ไม่รวยแน่นอน แต่อาจมี passive income พอสมควร ถ้าทำถูกวิธีและตลาดดี อาจได้เดือนละหลักพัน แต่ต้องเริ่มลงทุนก่อน

Q: ต้องเปิดเครื่องตลอด 24 ชั่วโมงเลยเหรอ?

 ใช่ ยิ่งเปิดนาน ยิ่งขุดได้เยอะ แต่ระวังเรื่องอายุ hardware และค่าไฟที่มาก

Q: แล็ปท็อปขุดได้ไหม? 

ได้ แต่ไม่แนะนำ ! แล็ปท็อปจะร้อนเกินไป อาจทำให้เครื่องพัง ถ้าจะทำก็ขุดแบบไม่หนักมาก และมีระบบระบายความร้อนดี ๆ

Q: ต้องเก่งคอมพิวเตอร์มากไหม? 

ไม่ต้องเก่ง หลายเหรียญเช่น เหรียญ Pi Coin หรือ เหรียญ Vertcoin สามารถขุดได้ง่ายมาก ๆ แค่ติดตั้งโปรแกรม กดปุ่มเดียวจบ

Q: Mining Pool คืออะไร? 

คือ กลุ่มคนรวมกันขุด แบ่งกำไรกัน ได้เงินน้อยกว่าขุดคนเดียว แต่สม่ำเสมอกว่ามาก ๆ

Q: เหรียญไหนดีที่สุด? 

ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์และเป้าหมาย

  • ถ้ามือใหม่ แนะนำเหรียญ Pi Coin, Vertcoin
  • ถ้ามี GPU แนะนำเหรียญ Ethereum Classic, Ravencoin
  • ถ้าจริงจัง แนะนำเหรียญ Monero, Zcash

Q: ขุดผิดกฎหมายไหม?

ในไทยและส่วนใหญ่ของโลก ไม่ผิดกฎหมาย แต่ควรตรวจสอบกฎหมายในประเทศตัวเองให้ชัดเจนก่อน

Q: ต้องเสียภาษีไหม? 

ขึ้นอยู่กับกฎหมายแต่ละประเทศ ในหลายที่ต้องเสียภาษี ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

สรุป

การขุดคริปโตไม่ได้ยากอย่างที่คิด หลายเหรียญออกแบบมาให้คนธรรมดาขุดได้ง่าย ๆ แม้คุณจะไม่เก่งคอมพิวเตอร์ก็เริ่มต้นได้

ขั้นตอนแรก

  1. เลือกเหรียญที่สนใจ
  2. อ่านวิธีการในบทความนี้อีกครั้ง
  3. ดาวน์โหลด software ที่ต้องใช้
  4. ลองทำตามทีละขั้นตอน
  5. อย่ารีบ อ่านคู่มือให้ดี

ข้อควรระวัง

  • เริ่มจากเล็ก ๆ ก่อน
  • คำนวณค่าไฟให้ดี
  • อย่าหวังรวยเร็ว
  • ทำเป็น passive income
  • สนุกกับการเรียนรู้

บทความนี้เป็นเพียงข้อมูลเพื่อการศึกษาเท่านั้น ผู้เขียนไม่รับผิดชอบต่อความเสี่ยงทางการเงิน การลงทุนใด ๆ ควรศึกษาข้อมูลและประเมินความเสี่ยงด้วยตัวเอง ราคาคริปโตผันผวนมาก อาจขาดทุนได้ และที่สำคัญ อย่าหลง Cloud Mining Scam

ลิงก์ข่าวที่เกี่ยวข้อง