<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

หุ้นคริปโต ‘ร่วงระนาว’! Coinbase-Robinhood นำดิ่ง-นักลงทุนผวา ‘Shutdown’ ลากยาว-เศรษฐกิจพัง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หุ้นกลุ่มคริปโต “ร่วงระนาว” ท่ามกลางภาวะตลาดที่แดงเถือก หลังจากนักลงทุนกลับมากังวลอย่างหนักเกี่ยวกับปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจมหภาค ทั้งตัวเลขการจ้างงานล่าสุดของสหรัฐฯ ที่ย่ำแย่, ความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้น และที่สำคัญคือวิกฤต Government Shutdown ที่ลากยาวมาถึง 37 วัน ทำสถิติใหม่ไปแล้ว

เทขายทุกกลุ่ม จาก Exchange สู่ ‘กงสีคริปโต’

ราคาหุ้น Robinhood (HOOD) ดิ่งลงกว่า 7% (โดยระหว่างวันเคยร่วงไปถึง 9%) ขณะที่ Coinbase (COIN) ร่วงตามกว่า 6% และ Galaxy Digital ก็ลดลง 4%

การเทขายไม่ได้จำกัดอยู่แค่นี้ หุ้นกลุ่ม “กงสีคริปโต” (Digital Asset Treasuries) อย่าง Strategy (MSTR) ร่วง 6.5% ส่วน BitMine (BMNR) และ SharpLink (SBET) ก็ดิ่งลง 7% และ 6% ตามลำดับ หุ้นกลุ่มเหมืองขุดอย่าง MARA Holdings และ Riot Blockchain ก็ร่วงลงกว่า 5%

นักวิเคราะห์ชี้ “ไม่มีข่าวดี-ก็ร่วงตามตลาด”

มาร์ก พาล์มเมอร์ (Mark Palmer) นักวิเคราะห์จาก Benchmark ให้ความเห็นว่า “ตลาดคริปโตทั้งหมดกำลังถูกกระทบจากปัจจัยมหภาคและการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ตลาด” เขากล่าวว่า แม้ปัจจัยเหล่านี้ (เช่น ภาษี, ดอกเบี้ย) อาจจะไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อหุ้นคริปโต แต่มัน “เพิ่มเบี้ยประกันความเสี่ยง (Risk Premium) ให้กับตลาดโดยรวม” และเมื่อไม่มีข่าวดีใหม่ๆ เข้ามา หุ้นคริปโตก็ร่วงลงไปพร้อมกับตลาดนั่นเอง

Shutdown ทำพิษ-กฎหมายคริปโตหยุดชะงัก

พาล์มเมอร์ยังชี้ว่า ภาวะ Shutdown ที่ยืดเยื้อนี้ได้ “ขัดขวาง” การพิจารณาร่างกฎหมายคริปโตที่หลายคนรอคอย (เช่น Clarity Act และ RFIA) ซึ่งกฎหมายนี้อาจเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยพยุงตลาดได้ “เมื่อรัฐบาลยังปิดอยู่… มันจึงไม่มีปัจจัยบวกอะไรที่จะมาดันราคา” พาล์มเมอร์กล่าว

สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงจากตัวเลขการจ้างงานที่น่ากังวล โดยรายงานจาก Challenger, Gray & Christmas ระบุว่า ในเดือนตุลาคมมีการประกาศเลิกจ้างงานในสหรัฐฯ ถึง 153,074 ตำแหน่ง เกือบ 3 เท่าของปีก่อน และเป็นตัวเลขเดือนตุลาคมที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2003

Bitcoin- Ethereum ร่วงตาม

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ร่วงหนักเช่นกัน โดย Nasdaq ดิ่งเกือบ 2% ราคา Bitcoin (BTC) ลดลง 2% มาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ $101,500 ซึ่งต่ำกว่าจุดสูงสุดตลอดกาลเมื่อเดือนที่แล้วถึง 18% ส่วน Ethereum (ETH) ก็ลดลง 3.6%

ที่มา: decrypt