ในช่วงดึกเมื่อวานนี้ราคา Bitcoin ได้ร่วงลดลงร์อย่างรุนแรงแตะระดับ 43,000 ดอลลาร์ โดยเกิดขึ้นไม่นานหลังการตัดสินใจของกรรมการเฟดหลายคนที่สนับสนุนให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.50%
รายงานการประชุมระบุว่า กรรมการเฟดหลายคนมองว่า เป็นเรื่องเหมาะสมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% จำนวนหนึ่งครั้งหรือสองครั้งในการประชุมวันข้างหน้า หากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ กรรมการเฟดทุกคนมีความเห็นตรงกันว่า เงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นและภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่ทำให้เฟดเห็นสมควรที่จะปรับลดขนาดของงบดุลในการประชุมครั้งต่อไป ซึ่งจะเป็นการปรับลดการถือครองหลักทรัพย์ในเวลาที่รวดเร็วกว่าที่เฟดเคยดำเนินการในช่วงปี 2560-2562″
“กรรมการเฟดส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า เป็นการสมควรที่จะปรับลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลลงเดือนละ 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และปรับลดการถือครองตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ลงเดือนละ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยการปรับลดงบดุลจะดำเนินการเป็นระยะ ๆ เป็นเวลา 3 เดือนหรืออาจจะนานกว่านั้น หากสภาวะตลาดเอื้ออำนวย” รายงานการประชุมระบุ
ดูเหมือนว่าการเปิดเผยรายงานการประชุมจะมีขึ้นหลังจากที่นางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงความเห็นเมื่อวันอังคาร (5 เม.ย.) ว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเป็นระบบ และเร่งปรับลดขนาดงบดุลจากระดับสูงเกือบ 9 ล้านล้านดอลลาร์ โดยเริ่มตั้งแต่เดือนหน้า พร้อมกับกล่าวว่า ขณะนี้เงินเฟ้ออยู่ในระดับที่สูงเกินไป และการชะลอเงินเฟ้อถือเป็นภารกิจที่มีความสำคัญอย่างมาก
ในขณะที่เขียนรายงานอยู่นี้ Bitcoin มีการซื้อขายกันอยู่ที่ 43,395 ดอลลาร์ ลดลง 3.93% อ้างอิงข้อมูลจาก Coinmarketcap
ที่มา : prachachat