แม้จะมีความกังวลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ตลาดคริปโตกับตลาดหุ้น แต่นักวิเคราะห์หลายยังคงเชื่อมั่นในสกุลเงินดิจิทัล เช่นเดียวกับนาย Chris Burniske นักวิเคราะห์ตลาดและหุ้นส่วน Placeholder VC ที่เชื่อว่า Bitcoin และ Ethereum จะยังคงมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าตลาดหุ้นต่อไป
Burniske ได้แชร์โพสต์ล่าสุดพร้อมกล่าวว่า ตลาด Crypto นั้นสามารถ “ยืนหยัดได้อย่างน่าทึ่ง”เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นที่มีอัตราการเติบโตสูง ในขณะที่ Bitcoin (BTC) และ Ether (ETH) ร่วงลดลงประมาณ 40% จากจุดสูงสุดตลอดกาล ตลาดหุ้นกลับได้เห็นมูลค่าลดลงอยู่ที่ระหว่าง 60 ถึง 80%
Burniske ได้คาดการณ์ถึงสาเหตุที่เป็นไปได้ 3 ประการสำหรับแนวโน้มที่กำลังจะเกิดขึ้นในปัจจุบัน หนึ่งในเหตุผลเหล่านั้นอาจเป็นเพราะความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ของคริปโตที่เกิดขึ้นชั่วคราว และมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่ตลาดคริปโตจะมีการปรับฐานลดลงตามตลาดหุ้น
Burniske คาดการณ์ว่า ราคาเหรียญคริปโตผู้นำในตลาดทั้งสองอาจร่วงแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 20,000 ดอลลาร์และ 1,500 ดอลลาร์ตามลำดับ ซึ่งที่ระดับนั้น BTC และ ETH จะยังคงมีราคาลดลงอยู่ที่เพียง 70% จากจุดสูงสุดตลอดกาล
“ความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ของ crypto นั้นเกิดขึ้นชั่วคราว และเรายังมีพื้นที่อีกมากให้ราคาได้ลดลง… สถานการณ์หมีที่เลวร้ายที่สุดที่ผมคาดการณ์ไว้น่าจะเป็นราคา Bitcoin ที่ระดับ $20,000 และ ETH $1500 หรือคิดเป็นมูลค่าที่ลดลง “เพียง” ~70% จากจุดสูงสุดตลอดกาล”
อีกสองความเป็นไปได้ที่ Burniske เชื่อมั่นว่าจะเกิดขึ้นก็คือ การยอมรับที่เพิ่มขึ้นและการไหลเข้าของเงินทุนสู่ตลาดคริปโต ผลตอบแทนที่เหนือกว่าของ Bitcoin และ Ethereum อาจเชื่อมโยงอยู่กับการยอมรับที่เพิ่มขึ้นของ Bitcoin ว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ และการยอมรับ ETH เป็น”สินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่มีคุณภาพ”
Burniske ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า ความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ของคริปโตที่เหนือกว่าหุ้นในปัจจุบันนั้น อาจเป็นผลมาจากการสนับสนุนเงินทุนจำนวนมหาศาลที่หลั่งไหลเข้าสู่ตลาดเมื่อช่วง 18 เดือนก่อน
Burniske ไม่ใช่นักวิเคราะห์เพียงคนเดียวที่ได้แบ่งปันการคาดการณ์จุดต่ำสุดของราคา Bitcoin ซึ่ง Bill Noble นักวิเคราะห์ระดับอาวุโสของ Token Metrics ก็มีความเห็นคล้าย ๆ กันกับ Burniske โดยเขาคาดการณ์ว่าราคา Bitcoin จะร่วงแตะจุดต่ำสุดที่แถว ๆ 20,000 ดอลลาร์
ในการให้สัมภาษณ์กับ Business Insider – Noble กล่าวให้ความเห็นว่าสงครามที่เกิดในยูเครน, อัตราเงินเฟ้อสูงที่สุดในรอบ 41 ปี และความผิดพลาดด้านนโยบายจากธนาคารกลาง ส่งผลทำให้ตลาดคริปโตอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม เมื่อปัญหาเหล่านี้คลี่คลายลง สกุลเงินดิจิทัลอาจพร้อมที่จะกลายมาเป็นสินทรัพย์หลักของโลก
ที่มา : zycrypto