ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา Bitcoin และ Altcoin ต่าง ๆ ถูกขายออกกำลังมาก ทำให้ตอนนี้ Matket Cap ของ Cryptocurrency ได้ร่วงลงมามากสุดในประวัติศาสตร์ โดยได้ลดลงกว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ ในเวลาไม่ถึง 1 ปี และในวันเสาร์ที่ผ่านมา Market Cap ได้ลงมาอยู่ที่ประมาณ 8.3 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากที่มีการร่วงอย่างรุนแรงของ Bitcoin
Bitcoin, Ethereum และเหรียญ Cryptocurrency เหรียญอื่น ๆ ได้ร่วงลงมาอย่างรุนแรง โดยมีปัจจัยมาจากความกังวลในเรื่องกฏระเบียบ, การร่วงของตลาด DeFi, สงครามในยูเครน, นโยบายทางการเงินของ FED และล่าสุดยังมีความกังวลในสภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ยิ่งไปกว่านั้นตัวชี้วัด On-Chain ได้บ่งบอกว่าตอนนี้นักลงทุนกำลังเริ่มเทขายกันดังที่เราได้เห็นในตลาดขณะนี้ แม้ว่ายังมีเหรียญไหลออกจากกระดานเทรดมากกว่าไหลเข้า แต่จำนวนเหรียญที่นักขุดและนักลงทุนรายอื่น ๆ โอนไปยังกระดานเทรดก็ยังมีเยอะอยู่ ซึ่งอาจจะทำให้หลายคนเป็นกังวล
ตัวชี้วัด Exchange inflow หรือการไหลเข้าออกของกระดานเป็นที่น่าจับตามอง เนื่องจากการโอนเหรียญไปยังกระดานเทรดที่ลดลง อาจทำให้เกิด Supply Shock และราคาพุ่งขึ้นมา
ในทางเทคนิคแล้วราคา Bitcoin จำเป็นที่ต้องยืนเหนือ 20,000 ดอลลา์ให้ได้ ไม่ให้โอกาสที่ราคาจะกลับขึ้นมาก็จะลดลง
อุปทานของกระดานเทรดลดลง และ HODLer กำลังเพิ่มขึ้น
ในขณะที่มีการร่วงของราคาอย่างต่อเนื่อง ทางบริษัทวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง Santiment ระบุว่าในช่วง 5 วันที่ผ่านมา มี 0.6% ของอุปทานของ BTC หรือประมาณ 114,000 BTC ได้โอนออกจากกระดานเทรด
สิ่งนี้บ่งชี้ว่าผู้ถือBTC ส่วนใหญ่เลือกที่จะถือมันไว้ต่อ แม้จะเจอกับสภาวะตลาดที่ผันผวน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางบริษัท Santiment รายงานว่าอุปทานในกระดานเทรดลดลงต่ำกว่า 10% ล่าสุดเมื่อตอนที่ Bitcoin ราคาลดลงต่ำกว่า 3,200 ดอลลาร์ ในปี 2018 แต่ในสัปดาห์นี้ตัวเลขนั้นลดลงเหลือ 9.25%
บริษัท Glassnode ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ crypto on-chain ระบุไว้เมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า HODLers ส่วนใหญ่จะเข้าซื้อกันในราคานี้ แม้จะมีความเจ็บปวดต่อการขาดทุน แต่กลุ่มนี้ค่อนข้างไม่อ่อนไหวต่อการเคลื่อนไหวของราคา ทำให้ช่วงราคานี้จะเกิดการผันผวนลดลง
นับตั้งแต่แตะระดับ All-Time-High ที่ราคา 69,789 ดอลลาร์ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ตอนนี้ Bitcoin ลดลงกว่า 72% และตอนนี้อยู่ที่ราคา 19,047 ดอลลาร์