รายงานล่าสุดจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงาน (EIA) ได้ออกมาเปิดเผยว่า ในปี 2023 ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมการขุดสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลกได้ใช้ไฟฟ้าในปริมาณเทียบเท่ากับการใช้พลังงานทั้งหมดในประเทศออสเตรเลีย
โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา EIA ได้ออกมาเปิดเผยว่า พลังงานที่ใช้ในการขุดคริปโตทั้งโลกนั้นคิดเป็น 0.2 ถึง 0.9% จากความต้องการไฟฟ้าทั้งหมดทั่วโลก ซึ่งสอดคล้องกับรายงานของ Business Insider ที่ได้ออกมาเปิดเผยตัวเลขดังกล่าวว่าอยู่ที่ประมาณ 0.6 ถึง 2.3% หรือเทียบเท่ากับการใช้ของรัฐอย่างยูทาห์หรือเวสต์เวอร์จิเนีย
แม้ว่าจำนวนดังกล่าวจะเป็นพลังงานไฟฟ้าที่เยอะมากๆ แต่ด้วยธรรมชาติของอุตสาหกรรมการขุดคริปโตนั้น เป็นที่รู้กันดีว่าจำเป็นที่จะต้องใช้พลังงานจำนวนมาก ในการเข้ารหัสที่ซับซ้อนเพื่อเพิ่มบล็อกใหม่เข้าไปยังบล็อกเชน
ทว่าทาง EIA กังวลว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ จนส่งผลต่อภาคพลังงานไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกามีความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ราคาไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น และผลกระทบต่อการปล่อยก๊าซไดออกไซด์
รายงานยังได้ชี้อีกว่า โดยเฉพาะส่วนของอุตสาหกรรมการขุด Bitcoin ในสหรัฐฯ นั้น มีการใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจาก 3.4% ในเดือนมกราคม 2020 เป็น 37.8% ในเดือนมกราคม 2022 ซึ่งการเติบโตนี้ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องพิจารณาการใช้พลังงานของอุตสาหกรรมนี้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น
และถ้าหากว่าการเติบโตนี้ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มันอาจส่งผลกระทบต่อภาคส่วนของพลังงานในสหรัฐฯ โดยตรง อย่างไรก็ตามก็ได้มีการถกเถียงกันถึงทางออกของปัญหานี้ โดยที่บางส่วนได้เสนอให้พวกเขาหันไปใช้แหล่งพลังงานสะอาด ในขณะที่อีกฝ่ายก็เสนอให้เปลี่ยนไปใช้พลังงานส่วนเกินที่ได้จากอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าแทน
ที่มา: Benzinga